Saturday 14 May 2011

"แอคทิเวีย-ดัชชี่" เดือดทุกตลาด จับตา "ดานอน" 10 บาท แย่งฐาน ตจว.

ปลายปี 2550 นับตั้งแต่การเข้ามาเปิดตลาดของ "แอคทิเวีย" คัพโยเกิร์ตระดับพรีเมี่ยมของยักษ์ใหญ่ "ดานอน" ค่ายโยเกิร์ตอันดับ 1 ของโลก เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของตลาดโยเกิร์ตเมืองไทยก็ว่าได้ เพราะเป็นการเข้ามาเปิดเซ็กเมนต์ใหม่ในตลาดพรีเมี่ยม ที่ชูจุดขายเรื่องคุณประโยชน์ คือช่วยในการขับถ่าย นับเป็นค่ายแรกที่ออกมาพูดเบเนฟิตของสินค้าอย่างชัดเจน 

ล่าสุด ดานอนสร้างเซอร์ไพรส์อีกครั้ง ด้วยการเปิดตัวคัพโยเกิร์ตภายใต้แบรนด์ "ดานอน" แบรนด์เดียวกับชื่อบริษัทลงสู่ตลาด โดยเริ่มต้นเป็นเอ็กซ์คลูซีฟในเซเว่นอีเลฟเว่น ที่น่าสนใจ คือ ขายเพียง 10 บาทเท่านั้น ในขนาด 110 ม.ล. เท่ากับแอคทิเวีย 



แหล่งข่าวจากวงการโยเกิร์ตเปิดเผยว่า เป็นกลยุทธ์จากบริษัทแม่ที่เห็นช่องว่างในตลาดต่างจังหวัด จึงเปิดตัวสินค้าดังกล่าวเพื่อขยายฐานผู้บริโภค ซึ่งปัจจุบันยังเป็นช่องว่างสำคัญที่ยังไม่มีใครลงเล่นอย่างจริงจัง 

"ดานอนตั้งราคา 10 บาท ซึ่งต่ำกว่าทุกแบรนด์ที่อยู่ในตลาดขณะนี้ เป็นกลยุทธ์ของดานอนบริษัทแม่ โดยแอคทิเวียจะเจาะกลุ่มบน คนเมือง ขณะที่แบรนด์ดานอนก็จะเจาะต่างจังหวัด" 

ด้าน "นำพล จารุพุทธิศิริพจน์" ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการด้านการตลาด บริษัท ซีพี-เมจิ จำกัด กล่าวว่า ปัจจุบัน ตลาดคัพโยเกิร์ตมีมูลค่า 3,500 ล้านบาท เติบโตไม่ต่ำกว่า 10% โดยดัชชี่ครองส่วนแบ่งประมาณ 60% ดานอน 15% และเมจิเป็นอันดับ 3 ประมาณ 6-7% โดยเซ็กเมนต์ฟังก์ชั่นนอลเติบโตขึ้นอย่างมาก ตั้งแต่การเข้ามาทำตลาดของแอคทิเวีย แต่สัดส่วนยังเล็กอยู่มาก ตลาดหลัก ๆ ของคัพโยเกิร์ตยังเป็น โยเกิร์ตที่เป็นรสชาติผลไม้ต่าง ๆ ซึ่งมีดัชชี่เป็นผู้นำ 

"การเข้ามาของแบรนด์ดานอน 10 บาท ซึ่งเน้นในเซเว่นฯ คงสร้างแรงสั่นสะเทือนได้พอสมควร เพราะช่องทางร้านสะดวกซื้อเป็นช่องทางหลักของคัพโยเกิร์ต มีสัดส่วนถึง 40% ซึ่งแบรนด์ ที่น่าจะได้รับผลกระทบที่สุด หนีไม่พ้น ดัชชี่ ขณะที่เมจิเบอร์ 3 คงไม่ได้รับผลกระทบมากนัก" 

"นำพล" ชี้ว่า ปัจจุบันเป็นการขับเคี่ยวกันระหว่างเบอร์ 1 กับเบอร์ 2 เห็นได้ชัดว่า ช่วงหลังแอคทิเวียก็เริ่ม เข้าไปเล่นในตลาดโยเกิร์ตผลไม้ ซึ่งเป็นตลาดหลักของดัชชี่มากขึ้น ขณะที่ดัชชี่ ก็รุกหนักกับดัชชี่ ไบโอ เพื่อแข่งกับแอคทิเวียในตลาดฟังก์ชั่นนอล" 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หากดูการขยับตัวของแอคทิเวียครั้งนี้ คงไม่ได้มีเป้าหมายแค่การขยายไปยังต่างจังหวัด แต่ใช้แบรนด์ "ดานอน" มาตีดัชชี่ ที่มีความโดดเด่นอย่างยิ่งในโยเกิร์ตรสผลไม้ต่าง ๆ ที่สำคัญคือฐานลูกค้าในต่างจังหวัด ซึ่งค่ายดัชมิลล์มีความโดดเด่นมาก ทั้งจากตู้แช่ในร้านค้าโชห่วยต่าง ๆ และเอเย่นต์สาวขายตรงในต่างจังหวัด เนื่องจากอยู่ในตลาดมาเนิ่นนาน ซึ่งตรงนี้เป็นจุดอ่อนสำคัญที่ค่ายดานอนยังเข้าไม่ถึง เพราะต่างเป็นช่องทางที่ต้องใช้เวลาในการบ่มเพาะและสร้างเครือข่าย

"นำพล" มองว่า การเปิดตัวดานอน 10 บาท เป็นสเต็ปแรกของดานอนที่เน้นช่องทางร้านสะดวกซื้อก่อน การขยายไปที่เทรดิชั่นนอลเทรด คงเป็นสเต็ปต่อไป 

ย้อนไปเมื่อ 4 ปีก่อน แอคทิเวียกลายเป็นปรากฏการณ์เขย่าตลาดคัพโยเกิร์ต โดยเฉพาะสร้างแรงสั่นสะเทือนให้กับผู้นำตลาดอย่าง "ดัชชี่" มาครั้งหนึ่งแล้ว จนดัชมิลล์ต้องส่ง "ไบโอ ดัชชี่" ออกมาแก้เกมเมื่อต้นปี 2553 ที่ผ่านมา โดยชูจุดขายเรื่องช่วยระบบขับถ่ายเช่นเดียวกับแอคทิเวีย 

ต่างกันที่ไบโอ ดัชชี่ มาในราคา 10 บาท แต่ด้วยสถานการณ์ต้นทุนที่ปรับเพิ่มขึ้น ล่าสุดดัชมิลล์ได้รีลอนช์ไบโอ ดัชชี่ ปรับราคาเป็น 12 บาท ในขนาด 110 ม.ล. ภายใต้ชื่อ "ดัชชี่ ไบโอ รุ่น Multi Care" 

งานนี้มีการชูเรื่อง "จุลินทรีย์โพรไบโอติก" ตอกย้ำจุดขายในเรื่องช่วยในการ ขับถ่าย และรูปร่างหนักขึ้นกว่าเดิม แต่แม้จะขึ้นราคา ดัชมิลล์ยังคงวางให้ต่ำกว่าคู่แข่ง "แอคทิเวีย" อยู่ 1 บาท เพื่อเป็นจุดต่างให้ผู้บริโภคตัดสินใจได้ง่ายขึ้น

ดานอน ค่ายโยเกิร์ตเบอร์ 1 ของโลก จะสามารถใช้แบรนด์ "ดานอน" สร้างผลปรากฏการณ์ทะลวงฐานะลูกค้าในตลาดต่างจังหวัดได้เหมือนกับที่เคยทำสำเร็จในตลาดพรีเมี่ยมหรือไม่ 

อีกไม่นานเกินรอ

No comments:

Post a Comment