เป๊ปซี่
เสียท่า โดน โค้ก
เบียดขึ้นเป็นแชมป์น้ำอัดลมแทน จากผลสำรวจเอซีนีลเส็น ณ สิ้นเดือน พ.ย.
ชี้ไทยน้ำทิพย์ฉวยโอกาสเสริมสุขมีปัญหาทางธุรกิจ อัดงบโหมกระตุ้นยอดขาย
แถมน้ำท่วมทำโรงงานเสริมสุขเดี้ยง คาดปีหน้ามีโอกาสเสียแชมป์น้ำดำอีกต่างหาก
นายชนินทร์ เทียนเจริญ
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทออฟติมัส จำกัด
บริษัทที่ปรึกษาทางการตลาดและสร้างแบรนด์
และนักการตลาดผู้เชี่ยวชาญในแวดวงอุตสาหกรรมเครื่องดื่ม เปิดเผยว่า
จากการเก็บข้อมูลตลาดเครื่องดื่ม โดยบริษัทเอซี นีลเส็น มีเดีย
รีเสิร์ซ(ประเทศไทย) ณ สิ้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา พบว่า มีมูลค่าตลาดรวมประมาณ
100,000 ล้านบาท อัตราการเติบโตชะลอตัวลงเหลือประมาณ 3% เทียบกับปีก่อนหน้า
ซึ่งตลาดโตประมาณ 16% เป็นผลมาจากอากาศแปรปรวนไม่ร้อนเหมือนปีที่ผ่านมา
และเกิดน้ำท่วมในระหว่างเดือนตุลาคมถึงพฤศจิกายน ส่งผลให้โรงงานของผู้ผลิตเครื่องดื่มในกลุ่มน้ำอัดลมและน้ำดื่ม
ถูกน้ำท่วมไม่สามารถกระจายสินค้าได้
นายชนินทร์กล่าวว่า
สำหรับตลาดหลักๆ มีแนวโน้มชะลอตัว คือตลาดน้ำอัดลมมูลค่า 36,000 ล้านบาท
คาดว่าจะติดลบ 4% เทียบกับสิ้นปีก่อนหน้าซึ่งโต 8% ตลาดน้ำดื่มมูลค่าประมาณ 9,000 ล้านบาท
เติบโตประมาณ 3% จากสิ้นปีก่อนหน้าซึ่งโต 23% นอกจากนี้ตลาดอื่นๆ
ที่เติบโตได้อย่างโดดเด่นในปีก่อนหน้า เช่น น้ำผลไม้ มูลค่าตลาดประมาณ 8,000
ล้านบาท ติดลบ 1% จากสิ้นปีก่อนหน้าโต 14%
ตลาดเครื่องดื่มที่มีคุณประโยชน์หรือฟังก์ชั่นนอลดริ๊งก์ ลบ 6% จากสิ้นปีก่อนหน้าซึ่งโต
79% ตลาดเครื่องดื่มเกลือแร่ มูลค่า 3,000 ล้านบาท ลบ 7% จากสิ้นปีก่อนหน้าโต 23%
เป็นต้น
นายชนินทร์กล่าวว่า นอกจากนี้
ข้อมูลจากบริษัทเอซีนีลเส็น ยังได้มีการเก็บข้อมูลยอดขายในส่วนของตลาดน้ำอัดลม
ในสิ้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ยังพบว่า ส่วนแบ่งในตลาดน้ำอัดลมรวมของบริษัทไทยน้ำทิพย์
จำกัด ผู้ผลิตน้ำอัดลมโค้ก มีส่วนแบ่งตลาดสูงกว่า บริษัทเสริมสุข จำกัด (มหาชน)
ผู้ผลิตน้ำอัดลมเป๊ปซี่ ได้เป็นครั้งแรกโดยมีส่วนแบ่ง 39%
มากกว่าเสริมสุขที่มีส่วนแบ่งประมาณ 35% ขณะที่ส่วนแบ่งในตลาดน้ำดำ
ซึ่งเป็นตลาดใหญ่ของน้ำอัดลมนั้น เป๊ปซี่ ยังคงเป็นผู้นำด้วยส่วนแบ่ง 29% และโค้ก
มีส่วนแบ่ง ประมาณ 24%
นายชนินทร์กล่าวว่า
เหตุที่ไทยน้ำทิพย์มีส่วนแบ่งตลาดสูงกว่าเสริมสุขนั้น
คาดว่าน่าจะมาจากการชนะในส่วนของน้ำสีที่มีมูลค่าประมาณ 20% ของตลาดรวม
เนื่องจากที่ผ่านมาไทยน้ำทิพย์ได้อาศัยช่วงจังหวะที่คู่แข่งมีปัญหาทางธุรกิจ
อัดงบการตลาดเพิ่มเท่าตัวเพื่อกระตุ้นยอดขาย
อีกทั้งเสริมสุขยังมีปัญหาเรื่องการผลิตและขนส่งสินค้าจากการที่โรงงานถูกน้ำท่วม
การที่ไทยน้ำทิพย์ให้ความสำคัญกับการเพิ่มงบตลาดโดยอาศัยช่วงที่คู่แข่งมีปัญหานั้นประเมินว่าในปีหน้าอาจจะมีส่วนแบ่งในตลาดน้ำดำมากกว่าเป๊ปซี่ได้เพราะในเดือนพฤศจิกายน
ปี 2555 ทางเสริมสุขจะหมดสัญญาการทำธุรกิจร่วมกันกับเป๊ปซี่ โค
นายชนินทร์กล่าวว่า
ส่วนแนวโน้มของตลาดเครื่องดื่มในปี 2555
นั้นจะมีการแข่งขันกันเรื่องนวัตกรรมและบรรจุภัณฑ์
No comments:
Post a Comment