หลังเป็นโต้โผรวม 12
องค์กรในชื่อ "พลังน้ำใจไทย" ล่าสุด "ฐาปน สิริวัฒนภักดี"
กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ไทยเบฟ เวอเรจ จำกัด (มหาชน)
ได้นำทีมผู้บริหารและพนักงานอาสาของแต่ละองค์กร
ลงพื้นที่คิกออฟโปรเจ็กต์แรกของภาคี ที่โรงเรียนธรรมิการาม จังหวัดลพบุรี
และช่วงเวลาก่อนผู้บริหารจะร่วมประชุมความคืบหน้าโปรเจ็กต์ต่อไป
"ประชาชาติธุรกิจ" มีโอกาสสัมภาษณ์ คุณหนุ่ม-ฐาปน
แม่ทำใหญ่ค่ายเบียร์ช้าง ทายาทเจ้าสัว เจริญ สิริวัฒนภักดี ถึง
ผลกระทบจากน้ำท่วมครั้งใหญ่ที่ผ่านมารวมถึงมุมมองต่าง ๆ ดังนี้
- เป้าหมายสำคัญในการจับมือกับ
12 องค์กรในการทำกิจกรรมเพื่อสังคม (ซีเอสอาร์) ร่วมกัน
จริง ๆ ไม่ได้ยึดติดกันแค่ 12
ราย เพราะทุกวันนี้ก็มีองค์กรเข้าร่วมเป็น 20 ราย
ด้วยวัตถุประสงค์เดียวกันคือการช่วยสังคมไทย โดยเฉพาะด้านเยาวชน
ซึ่งถือเป็นการช่วยภาครัฐที่ต้องใช้งบฯไปกับเรื่องโครงสร้าง
ขณะที่เราจะเติมเต็มเรื่องอุปกรณ์การเรียนการสอน
อย่างน้อยน่าจะเป็นส่วนหนึ่งที่เข้ามาช่วยเป็นแรง เป็นกำลัง ให้สังคมโดยร่วม
อย่างการรวมตัวของพลังน้ำใจไทย ถ้าเราไม่รวมตัวกันบางทีอาจทำงานทับซ้อนกัน
สิ้นเปลืองทรัพยากร เปลืองแรง
- ถือเป็นการช่วยกระตุ้นกำลังซื้อด้วยหรือไม่
ผมว่าถือเป็นการแบ่งเบาภาระในบ้านที่มีเด็ก
ๆ เพื่อจะได้มีกำลังใจในการฟันฝ่า พ่อแม่จะได้กลับมาทำงานทำการ
เป็นการช่วยให้ทุกอย่างกลับมาอยู่ในสภาพปกติได้เร็วที่สุด
แต่จากที่เห็นผมเชื่อว่าคนไทยเราสู้อยู่แล้ว
เหตุการณ์ครั้งนี้เป็นสิ่งที่ทำให้เราได้เรียนรู้
และต่อไปอาจมีรูปแบบการบริหารจัดการที่ดีกว่านี้
-
ในแง่บทเรียนทั้งเศรษฐกิจและสังคม ได้อะไรจากเหตุการณ์ครั้งนี้
การร่วมไม้ร่วมมือ
ความสมัครสมานสามัคคีเป็นเรื่องสำคัญ แน่นอนว่าเหตุการณ์นี้ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อย
แล้วก็เป็นบทพิสูจน์ว่าเมื่อเกิดสิ่งที่มันกระทบกับทุก ๆ คน เราจะรวมตัวกันได้
เข้มแข็งแค่ไหน
- ตอนนี้
ระบบดีซีกับโลจิสติกส์ของ "ช้าง" กลับมาปกติหรือยัง
ตอนนี้เรียบร้อยแล้วเพราะน้ำลดลง
แต่อาจมีปัญหาเรื่องระยะทางบ้าง จากปกติใช้เวลาแค่ 2 ชั่วโมงเศษ ๆ ตอนนี้อาจเป็น
4-5 ชั่วโมง ตรงนี้เราต้องรับสภาพจากสิ่งที่เกิดขึ้น
แต่ก็ถือว่าดีกว่าตอนน้ำท่วมซึ่งช่วงนั้นการขนส่งสินค้าต้องใช้เวลาเกือบ 12
ชั่วโมง ส่วนหนึ่งก็ถือว่าได้รับผลกระทบ เพราะกระจายสินค้าได้ไม่ทั่วถึง
แต่เราก็พยายามเติมสินค้าให้เต็มเท่าที่จะทำได้
-
ประเมินสถานการณ์ช่วงสิ้นปีไว้อย่างไรบ้าง
ธุรกิจทุกประเภทต้องได้รับผลกระทบอยู่แล้ว
โดยเฉพาะไตรมาส 4
หากให้ประเมินสถานการณ์เรื่องผลประกอบการปลายปีคงสู้ในรอบปีที่ผ่านมายากหน่อย
ขึ้นอยู่กับว่า 3 ไตรมาสแรกใครตุนไว้มากน้อยแค่ไหน ถ้าบางคนที่ตั้งใจทำยอดไตรมาส 4
อาจจะช้าไปแล้ว เพราะเหตุการณ์น้ำท่วมมันมาเกินกว่าที่เราคาดคิด
-
กิจกรรมลานเบียร์ปีนี้ต้องยกเลิกทั้งหมดหรือไม่
ไม่ถึงกับยกเลิกทั้งหมด
แต่ก็มีหลายแห่งที่ยกเลิก อย่าง ฟิวเจอร์ พาร์ค รังสิต ส่วนเซ็นทรัลเวิลด์
กำลังดำเนินการเรื่องโครงสร้างอยู่ แรกเริ่มตั้งใจจะทำเป็นการกุศล
แต่ต้องดูตามสถานการณ์ อาจมีจำหน่ายสินค้าอยู่บ้าง อยากให้เป็นจุดนัดพบมากกว่า
- ลานเบียร์ที่เซ็นทรัลเวิลด์
ถือเป็นเวทีเปิดตัวเบียร์ใหม่ "ช้างเอ็กซ์ปอร์ต"
ช้าง เอ็กซ์ปอร์ต ออกตัว
(เริ่มวางตลาด) เมื่อช่วงก่อนน้ำท่วมเล็กน้อย
จึงทำให้รูปแบบการสื่อสารมีสะดุดไปบ้าง แต่เนื่องจากน้ำไม่ได้ท่วมทุกพื้นที่
พื้นที่ไหนที่ยังพอแนะนำได้ก็ทำไปก่อน
- เบียร์ตัวใหม่แตกต่างจากช้างเดิมอย่างไร
ช้าง เอ็กซ์ปอร์ต
เป็นเพียวมอลต์ 100% จากข้าวบาร์เลย์และมอลต์ คล้าย ๆ กับโอวัลติน
แล้วเอามาผ่านกระบวนการผลิตเบียร์
ถือเป็นหนึ่งในไลน์ที่ออกมาเป็นทางเลือกให้ผู้บริโภค
โดยจับราคาสูงกว่าช้างเล็กน้อย ขณะที่ช้างทั้ง 3 สูตร ได้แก่ คลาสสิก ดราฟท์ ไลท์
ก็ยังคงมีทำตลาดอยู่เหมือนเดิม
- ตอนหลังๆ ดูเหมือนว่า
เฟดเดอร์บรอย จะหายไปจากตลาด
ตัวนี้
ก็ยังจำหน่ายอยู่ในท้องตลาดเหมือนเดิม
เพียงแต่เรามองเรื่องช่องทางการจัดจำหน่ายที่เน้นให้ตรงกับ เป้าหมายมากขึ้น
มุ่งเจาะไปตามร้านต่าง ๆ
- ผลกระทบจากน้ำท่วมไทยเปฟฯ
จะมีแผนปรับพอร์ตสินค้าอย่างไรหรือไม่
ยังเหมือนเดิม
คือเน้นการขยายสายตลาดของน็อนแอลกอฮอลล์ แต่ปีนี้โออิชิถูกกระทบเต็ม ๆ
เพราะตอนแรกเราวางแผนขยายโรงงาน ลงทุนเครื่องจักรใหม่
พอถูกน้ำท่วมที่นิคมอุตสาหกรรมนวนครจึงต้องไปใช้โรงงานที่อมตะผลิตสินค้าป้อนตลาดแทน
-
ปีหน้าจะยังมีแผนดำเนินการเรื่องโรงงานต่อหรือไม่
แน่นอน
ตอนนี้ก็ปรับปรุงอยู่แล้ว พอน้ำเริ่มลดลงก็พยายามสูบน้ำด้วย
คาดว่าทุกอย่างน่าจะกลับมาเป็นปกติได้อีกครั้ง โดยใช้เวลาอย่างน้อย 3-6 เดือน
-
การรุกตลาดต่างประเทศถือเป็นการช่วยเรื่องการกระจายความเสี่ยงหรือไม่
ช่วยได้แน่นอนอยู่แล้ว
เพราะทุกปีตลาดต่างประเทศจะมีการเติบโตเป็นตัวเลข 3 หลัก
แต่ทั้งนี้ก็ต้องเข้าใจว่าที่โตมาก ๆ ดังกล่าวก็เพราะสัดส่วนค่อนข้างเล็ก
ก็ขึ้นอยู่กับว่าถ้ามีโอกาสในการขยายตัวในเรื่องการควบรวมกิจการต่าง ๆ ตรงนั้นก็จะ
significant
(มีความหมายหรือนัยยะสำคัญ) มากขึ้น
No comments:
Post a Comment