ตลาดเครื่องดื่มมูลค่ากว่า 1
แสนล้านบาทในปีนี้ แม้หลายกลุ่มเครื่องดื่มจะมีการถดถอย
เนื่องจากสภาพอากาศที่ไม่ร้อนมาก และวิกฤตการณ์น้ำท่วม ที่ส่งผลกระทบกับโรงงาน
และการกระจายสินค้า ทำให้เครื่องดื่มหลายประเภท
หลายแบรนด์
ยอดขายลดลงแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ปี55 นี้ทิศทางตลาด ยังคงแข่งขันกันดุเดือด
ผู้นำในตลาดมีแนวโน้มเปลี่ยนมือ เนื่องจากผลกระทบที่ยังต่อเนื่อง
รวมถึงพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป
การเลือกบริโภคเครื่องดื่มไม่ได้เน้นแค่สุขภาพ แต่มีอารมณ์ ความต้องการ เข้ามาผนวก
ทำให้ "แพ็กเกจจิ้ง" และ "นวัตกรรม"
กลายเป็นเครื่องมือการตลาดสำคัญ ที่นักการตลาดไม่สามารถมองข้าม
++ตลาดเครื่องดื่มโตถดถอย
จากการรายงานตัวเลขการเติบโตของตลาดเครื่องดื่มมูลค่า
1 แสนล้านบาท ของบริษัท นีลเส็น ประเทศไทย พบว่าโดยภาพรวมตลาดเติบโตเพียง 3%
ขณะที่ปีก่อนเติบโตถึง 16% เนื่องจากสภาวะอากาศที่ไม่ร้อนมากเหมือนปีที่ผ่านมา
และไตรมาสสุดท้ายของปี ยังเกิดวิกฤตการณ์น้ำท่วม โรงงานผลิต
และศูนย์กระจายสินค้าหลายแห่งได้รับความเสียหาย
ส่งผลให้เครื่องดื่มหลายประเภทประสบภาวะวิกฤติขาดตลาด และสามารถผลิตสินค้าออกขายได้
ตลาดนมพร้อมดื่ม มูลค่ากว่า 4
หมื่นล้าน ปี 2553 เติบโต 8% ปี 2554 การเติบโตลดลง เหลือเพียง 6%
ตลาดน้ำอัดลมมูลค่า 3.6 หมื่นล้านบาท ที่ผ่านมาเคยเติบโตปีละ 5-8% โดยปี 2553
เติบโต 8% ปีนี้ถือเป็นปีแรกที่ติดลบถึง 4% เหตุอันเนื่องมาจากผลกระทบน้ำท่วม
และผู้บริโภคเริ่มสวิตช์ไปดื่มชาเขียวพร้อมดื่มมากขึ้น เครื่องดื่มชูกำลัง ตลาด 1.6 หมื่นล้านบาท ปี 2553 เติบโต 8% ปี
2554 เติบโต 6% น้ำดื่ม ตลาดรวมซึ่งนับเฉพาะแบรนด์ใหญ่ในโมเดิร์นเทรดเท่านั้น
มีมูลค่าประมาณ 9,000 ล้านบาท ปี 2553
เติบโต สูงถึง 23% ปี 2554 เติบโตเพียง 3% เพราะสภาพอากาศที่ไม่ร้อน
ส่วนน้ำผลไม้มูลค่าตลาด 8,500
ล้านบาท ปี 2553 เติบโต 14% ปี 2554 เติบโตเพียง 1%
ขณะที่มูลค่าตลาดลดลงจากเดิมที่มีมูลค่าอยู่ที่ 9,000 ล้านบาท กาแฟกระป๋อง มูลค่าตลาด 8,500 ล้านบาท ปี 2553
โต 6% ปี 2554 เติบโต 5% ชาพร้อมดื่ม มูลค่าตลาด 8,000 ล้านบาท ปี 2553 เติบโตสูง
25% สาเหตุที่เติบโตมาก เนื่องจาก ปี 2552 ตลาดชาเขียวพร้อมดื่มไม่ค่อยเติบโต
สำหรับปี 2554 เติบโตประมาณ 17% ตลาดฟังก์ชันนัลดริงก์ มูลค่าตลาด 4,200 ล้านบาท
ปี 2553 เติบโต 79% ช่องทางตลาดที่เติบโตมาก คือ เซเว่น อีเลฟเว่น เติบโตมากถึง
200% ปี 2554 กลับติดลบ 6% เนื่องจากผู้นำตลาดอย่าง เซปเป้ บิวตี้ดริ๊ง ของ บริษัท
ทรัพย์อนันต์ เยนเนอรัลฟู้ด จำกัด ไม่ค่อยทำตลาด ขณะที่แบรนด์อื่นๆ
ก็ไม่ค่อยมีกิจกรรมการตลาดด้วยเช่นกัน
เครื่องดื่มเกลือแร่ ปี 2553
เติบโตประมาณ 23% จากมูลค่าตลาดรวม 3,000 ล้านบาท ปี 2554 เติบโตติดลบ 7%
เนื่องจากปัญหาน้ำท่วม และอากาศหนาว เครื่องดื่มประเภทธัญพืช อาทิ ไมโล โอวัลติน
ซึ่งมีมูลค่าตลาดประมาณ 2,000 ล้านบาท ปี 2553 เติบโตประมาณ 4% ปี 2554
เติบโตสูงถึง 17%
++น้ำผลไม้เหนื่อยหนัก
ปี 55 นี้ตลาดเครื่องดื่มที่คาดว่าจะอยู่ในภาวะถดถอยต่อเนื่อง
โดยนายชนินทร์ เทียนทอง ประธานบริหาร บริษัท ออฟติมัส จำกัด
บริษัทที่ปรึกษาด้านการสร้างแบรนด์ กล่าวว่า น่าจะเป็นกลุ่มน้ำผลไม้
รวมทั้งฟังก์ชันนัลดริงก์ ที่เติมเพียงแค่กลิ่น รส และอัดก๊าซ
เพราะคนเริ่มมองว่าลูกเล่นที่แต่ละแบรนด์ใส่ลงไปในน้ำ
เป็นแค่สีสันที่ไม่แน่ใจว่าจะได้ประโยชน์ต่อร่างกายจริงหรือเปล่า
"น้ำผลไม้ในปี 55
คาดว่าจะต้องเหนื่อยหนัก เพราะหมดลูกเล่น แต่ฟังก์ชันนัลดริงก์
ยังแข่งกันออกตัวใหม่ๆ อีกเยอะ" นายชนินทร์กล่าวและว่า ส่วนที่ตลาดจะตกมาก น่าจะอยู่ในกลุ่มของบิวตี้ดริงก์
ขณะที่แพ็กเกจจิ้งที่เป็นขวดพลาสติก จะได้รับความนิยมลดลง
ทำให้เกิดแพ็กเกจจิ้งใหม่ๆ เช่น พวก Aseptic Bags
นอกจาก Aseptic
Bags แล้ว แพ็กเกจจิ้งที่เป็น Shot หรือวิตามิน
ดริงก์ ยังจะได้รับความนิยมมากขึ้น เพราะคนรู้สึกว่าน่าเชื่อถือ
ขณะที่เน้นส่วนผสมที่มีประโยชน์ต่อร่างกายชัดเจน ทำให้ผู้บริโภคให้ความสนใจมากขึ้น
เพราะต้องการเครื่องดื่มสุขภาพ ที่เห็นผลได้จริง โดยตลาดช็อต
เกิดขึ้นมาในตลาดเมืองไทยกว่า 5-6 ปี ปีที่ผ่านมา เป็นปีที่มีการเติบโตสูงถึง 20%
จากตลาดรวมประมาณ 800 ล้านบาท
++เครื่องดื่มธัญพืชอนาคตสดใส
ตลาดเครื่องดื่มธัญพืช
ซึ่งขนาดตลาดยังไม่ใหญ่นัก มีมูลค่าเพียง 2,000 ล้านบาท
กลับเป็นตลาดที่มีแนวโน้มการขยายตัวที่ดี เพราะคู่แข่งในตลาดยังมีน้อย อาทิ
โอวัลติน ไมโล มิว (MEW ) หรือ Soy
Milk ต่างๆ ที่ปี 2554 เริ่มเห็นแบรนด์ใหม่ๆ
ในตู้แช่ร้านสะดวกซื้อมากขึ้นเรื่อยๆ อาทิ Vita, EMO
นายชนินทร์ พูดถึง
ทิศทางการแข่งขันของตลาดเครื่องดื่มว่า ปี55จะได้เห็นผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ
ที่เน้นนวัตกรรม และการพัฒนาแพ็กเกจจิ้งแปลกๆ ออกสู่ตลาดมากขึ้น
ซึ่งถือเป็นเทรนด์ตลาดที่เกิดขึ้นในญี่ปุ่นมาแล้ว กลุ่มฟังก์ชันนัลดริงก์
ก็จะเป็นอะไรที่เจาะลึกเฉพาะความต้องการของแต่ละกลุ่มผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น
อย่างเช่น ฟังก์ชันนัลดริงก์ บำรุงสมรรถภาพทางเพศชาย
อย่างไรก็ตาม
เครื่องดื่มน้ำผลไม้ จะยังไม่หายไปจากตลาดแน่นอน แต่สเกลของตลาดจะลดลง
และแบรนด์ที่อยู่ได้ จะต้องมีลูกเล่นใหม่ๆ เข้ามาปรับเปลี่ยนอยู่เรื่อยๆ
ซึ่งคงไม่ต่างจากเทรนด์ของตลาดเครื่องดื่มในญี่ปุ่น ที่มีการปรับเปลี่ยนเร็ว
ออกเครื่องดื่มนวัตกรรม ที่มีรูปลักษณ์ใหม่สะดุดตาโดนใจผู้บริโภคมากขึ้น
No comments:
Post a Comment