Sunday 8 July 2012

สิงห์-ช้าง-เนสท์เล่ปั่นตลาดน้ำดื่ม เปิดทุกแนวรบปรับแพ็กเกจจิ้งใหม่ชิงโชคแจกรถ


ค่ายน้ำดื่มโหมตลาดเต็มที่ หลังกำลังผลิตฟื้นเต็มร้อย "สิงห์" ลั่นทวงมาร์เก็ตแชร์คืน ทุ่มพันล้านตั้งโรงงานอีก 2 แห่งรับตลาดโต ด้าน "ช้าง" ลุยปั้นแบรนด์ ผนึกฟุตบอลมัดใจคนรุ่นใหม่ ทุ่มโฆษณา-กิจกรรมตลอดครึ่งปีหลัง คริสตัลย้ำคุณภาพ-อัดโปรโมชั่นชิงโชค ด้านเนสท์เล่ชูหน่วยขายเสริมแกร่งยี่ปั๊ว แบรนด์ใหญ่รุมตลาดโฮมดีลิเวอรี่ สิงห์สบช่องปั้นหน่วยไดเร็กต์เซล ส่งตรงเครื่องดื่มบุก ตจว.

ตลาดน้ำดื่มตั้งแต่ต้นปีมีการแข่งขันรุนแรงต่อเนื่องมาถึงขณะนี้ ปัจจัยสำคัญมาจากค่ายใหญ่ทั้งสิงห์, คริสตัล, เนสท์เล่ รวมถึงค่ายอื่น ๆ ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมฟื้นกำลังการผลิตเต็มร้อยแล้ว เห็นชัดว่าเริ่มกลับมารุกตลาดอย่างหนักเพื่อทวงคืนส่วนแบ่งตลาดที่หายไป เช่นเดียวกับน้องใหม่ที่แจ้งเกิดในช่วงน้ำท่วมได้แล้วก็พยายามรักษาโมเมนตัมการเติบโต บวกกับไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคที่หันมาให้ความสำคัญกับสุขภาพมากขึ้น ส่งให้ตลาดน้ำดื่ม 2 หมื่นล้านบาทในขณะนี้คึกคัก
สิงห์ทุ่มพันล้าน ผุด 2 โรงงาน

นายสันต์ ภิรมย์ภักดี ผู้อำนวยการกลุ่มตลาดน็อนแอลกอฮอล์ บริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น จำกัด เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ที่ผ่านมาตลาดน้ำดื่มโตต่อเนื่องจากไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคที่หันมาใส่ใจสุขภาพ ครึ่งปีแรกโต 23% สิงห์โต 21% ส่วนหนึ่งมาจากสต๊อกสินค้าที่ไม่เพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภคในช่วงมกราคม-กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เป็นผลจากเหตุการณ์น้ำท่วมที่บริษัทหันไปผลิตน้ำดื่มช่วยเหลือผู้ประสบภัยจำนวนมาก

อย่างไรก็ตามขณะนี้สถานการณ์ทุกอย่างเริ่มกลับสู่ภาวะปกติแล้วตั้งแต่มีนาคม โจทย์หลักของบริษัทคือ การทวงคืนส่วนแบ่งตลาดที่หายไป 4% จาก 28% เมื่อปีที่แล้ว ปัจจุบันอยู่ที่ 24% แต่มั่นใจว่า

สิ้นปีนี้จะกลับมามีส่วนแบ่งที่ 28% เท่าเดิม โดยครึ่งปีหลังเตรียมกิจกรรมต่าง ๆ ไว้กระตุ้นยอดขาย



นายสันต์กล่าวว่า เพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต มีแผนจะขยายโรงงานน้ำดื่มอีก 2 แห่ง ช่วงครึ่งปีหลังตั้ง 1 แห่ง ปีหน้าอีก 1 แห่ง ใช้งบฯลงทุนประมาณ 500-600 ล้านบาทต่อโรงงาน ส่วนสถานที่ตั้งยังไม่สามารถเปิดเผยได้

ปัจจุบันส่วนแบ่งตลาดน้ำดื่มมูลค่า 20,000 ล้านบาท สิงห์เป็นผู้นำอยู่ที่ 24% ตามด้วยคริสตัล 15% เนสท์เล่ เพียวไลฟ์ 15% เฮาส์แบรนด์ 11% น้ำทิพย์ 10% ช้าง 6% และมิเนเร่ 3%

ช้างผนึกฟุตบอลปั้นแบรนด์

ด้านนายชาญวิทย์ กิ่งเทียน ผู้จัดการผลิตภัณฑ์ "น้ำดื่มช้าง" บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ขณะนี้น้ำดื่มช้างได้ปรับตัวในหลายด้านเพื่อเข้าถึงผู้บริโภคได้มากขึ้น เริ่มจากการใช้สื่อและกิจกรรม ซึ่งภาพรวมจะใช้กลยุทธ์ "เอ็นเตอร์เทนเมนต์ ไลฟ์สไตล์" เน้นสื่อและกิจกรรมนอกบ้าน ตามไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่

ที่ผ่านมาได้เปิดตัวโฆษณาโดยนำครอบครัว "มอส ปฏิภาณ" มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ เพื่อตอกย้ำความสะอาดใสของผลิตภัณฑ์ และเน้นโฆษณาผ่านสื่อบนบีทีเอส, โรงหนัง, ทีวีในลิฟต์ สำนักงาน และวิทยุ แต่ยังไม่โฆษณาทางโทรทัศน์

ขณะเดียวกันก็ชูธีมกีฬาฟุตบอลในสื่อ กิจกรรม และแพ็กเกจจิ้ง โดยได้ทยอยปรับแพ็กเกจจิ้งทั้งน้ำดื่ม โซดา และเบียร์ ให้เป็นลวดลายของทีมบาร์เซโลน่า และรีล มาดริด ที่ช้างเป็นสปอนเซอร์

เทรนด์ ดีลิเวอรี่ แข่งขันหนัก

นายชาญวิทย์กล่าวว่า บริษัทยังมีแผนรุกช่องทางดีลิเวอรี่ ส่งน้ำถึงบ้านและสำนักงานมากขึ้น เพราะมองเห็นศักยภาพตลาดจากไลฟ์สไตล์คนเมืองที่ต้องการความสะดวกสบาย ปัจจุบันบริการดีลิเวอรี่ให้บริการครอบคลุมพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล และจะขยายให้ครอบคลุมยิ่งขึ้น รวมทั้งมีแผนจะเพิ่มรถส่งอีก 100 คัน

"ปัจจุบันการแข่งขันช่องทางนี้สูงขึ้น แต่ละค่ายใช้โฆษณาเพื่อโปรโมต โดยยังเน้นอยู่ที่เขตกรุงเทพฯเป็นหลัก ทั้งนี้เป็นผลมาจากช่วงน้ำท่วมที่ช่องทางดีลิเวอรี่ ส่งน้ำถึงบ้านและออฟฟิศเติบโตมาก ทำให้ทุกค่ายเห็นโอกาส"

ล่าสุด "สปริงเคิล" ผู้นำในช่องทางนี้ ได้ประกาศรับสมัครผู้จัดส่งน้ำดื่ม โดยมีรายได้ขั้นต่ำ 43,000 บาท ซึ่งสร้างความฮือฮา ส่วนเนสท์เล่เองก็เปิดตัวขนาด 18.9 ลิตร เพื่อรุกช่องทางนี้โดยเฉพาะเมื่อ 2 ปีที่แล้ว

ด้านสิงห์ นายสันต์กล่าวว่า ตลาดในช่องทางส่งถึงบ้าน หรือขนาด 18.9 ลิตร มีสัดส่วนราว 5% ของตลาดน้ำดื่ม 2 หมื่นล้านบาท มีต้นทุนจากการขนส่ง-บริการสูง ขณะเดียวกันแต่ละค่ายก็เน้นแข่งขันด้านราคา อย่างไรก็ตาม สิงห์ยังได้เปรียบตรงมีราคาต่ำกว่าคู่แข่ง ช่วงปลายปีจึงเพิ่มรถขนน้ำเพื่อขยายช่องทางไดเร็กต์เซลอีก 200 คัน เป็น 400 คัน เพื่อเตรียมบุกช่องทางดีลิเวอรี่อย่างจริงจัง ตั้งเป้าขยายไปยัง

ต่างจังหวัด รวมถึงเพิ่มไลน์สินค้าจากน้ำดื่มไปสู่ผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ด้วย

แบรนด์ใหญ่อัดโปรฯทวงยอด

นายสมชาย พรรัตนเจริญ นายกสมาคมค้าส่งปลีกไทย เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ขณะนี้ค่ายน้ำดื่มมีการรุกตลาดอย่างหนัก โดยเฉพาะค่ายที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมเมื่อปลายปีที่แล้ว ซึ่งทำให้

ยอดขายและส่วนแบ่งตลาดหายไปส่วนหนึ่ง โดยสิงห์มีการจัดกิจกรรม "ชิงทองรวยล้าน กับน้ำดื่มสิงห์ ปี 5" ขณะที่คริสตัลเปิดตัวแคมเปญ "ดื่มคริสตัลวันนี้ ลุ้นดูดีไม่ซ้ำใคร กับซูซูกิ สวิฟท์ใหม่ 5 คัน" นอกจากนี้ ยังมีเนปจูน แบรนด์น้ำดื่มจากระยองที่เข้ามาแจ้งเกิดในช่วงน้ำท่วม ก็จัดโปรโมชั่นชิงโชคแจกรถยนต์ฮอนด้า บริโอ เพื่อรักษาโมเมนตัม

นอกจากนี้ปัจจุบันแต่ละค่ายยังกระหน่ำทำโปรโมชั่นในเซเว่นอีเลฟเว่น โดยเนสท์เล่ เพียวไลฟ์ ขาย 2 ขวด 10 บาท และออร่าของค่ายทิปโก้ขาย 2 ขวด 15 บาท ขณะที่สิงห์ จัดโปรโมชั่นน้ำแร่เพอร์ร่า 3 ขวด 20 บาท ส่งผลให้การแข่งขันรุนแรงมากขึ้น

เสริมสุขทุ่ม 100 ล.ปั้น คริสตัล

แหล่งข่าวจากน้ำดื่มคริสตัลระบุว่า ปัจจุบันคริสตัลมีการส่งน้ำถึงบ้านอยู่แล้ว ตามเส้นทางของรถขนส่งหากมีลูกค้าสั่ง แต่ไม่ได้เปิดแผนกนี้จริงจัง และยังไม่มีการเปิดตัวไซซ์ 18.9 ลิตร เหมือนค่ายอื่น แต่ก็เล็งเห็นศักยภาพของตลาดและมีความสนใจ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับน้ำดื่มคริสตัลถือว่าน่าจับตาไม่น้อย เพราะมีการทำตลาดและโฆษณาต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปี ล่าสุดทุ่มงบฯ 100 ล้าน สร้างแบรนด์และเปิดแคมเปญตลาดตอกย้ำเรื่องคุณภาพ จากการเป็นน้ำดื่มรายแรกของประเทศที่ได้รับ 2 รางวัลมาตรฐานการผลิตของสถาบัน NSF International สหรัฐอเมริกา และรางวัล อย. อวอร์ด ในไทย

ช่วงหน้าร้อนที่ผ่านมายังได้เปิดแผนก "เสริมสุข ดีลิเวอรี่ ยูนิต" ส่งขบวนรถลอตใหม่ 30 คัน อำนวยความสะดวกในการจัดส่งเครื่องดื่มรับความต้องการช่วงซัมเมอร์ ถือเป็นนโยบายที่ชัดเจนของเสริมสุขที่โฟกัส "คริสตัล" ซึ่งเป็นแบรนด์เดียวของบริษัท หลังจากได้บอกเลิกสัญญากับทางเป๊ปซี่-โค ซึ่งจะมีผลตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปีนี้

เนสท์เล่เสริมยี่ปั๊ว-ป้อง รง.ผลิต

นายอาณัติ จุลินทร ผู้อำนวยการบริหารน้ำดื่ม บริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ปัจจุบันบริษัทเป็นอันดับ 2 ของตลาดน้ำดื่มเมืองไทย โดยที่ผ่านมาพยายามเสริมจุดแข็งในช่องทางเทรดดิชั่นนอลเทรด ผ่าน Nestle Distribution Partner (NDP) ทำให้ช่องทางนี้มีความแข็งแกร่งมากขึ้น นอกจากนี้จะเน้นเพิ่มขนาดขวดให้หลากหลายเพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคทุกกลุ่ม อาทิ การเปิดตัว "เนสท์เล่ คิดส์" ไซซ์เล็ก

ขณะเดียวกันก็เปิดตัวโฆษณาเพื่อกระตุ้นให้คนดื่มน้ำมากขึ้น อีกทั้งยังได้รุกช่องทางดีลิเวอรี่ ส่งน้ำถึงบ้านและออฟฟิศมากขึ้น ด้วยการเปิดตัว เนสท์เล่ เพียวไลฟ์ ขนาด 18.9 ลิตร เมื่อกลางปี 2553 ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดี

"ครึ่งปีหลังเราจะมีสินค้าใหม่ และเล่นไซซิ่งที่หลากหลาย สิ่งที่กังวลขณะนี้ยังมีเรื่องของน้ำท่วม ส่วนการเติบโตปีนี้ขึ้นอยู่กับตรงนี้ด้วยว่าจะกระทบหรือไม่ อยากให้ภาครัฐเข้ามาดูแล ซึ่งเราก็เตรียมป้องกันเต็มที่"

1 comment:

  1. Hey I’m Martin Reed,if you are ready to get a loan contact.Mr Benjamin via email: 247officedept@gmail.com ,WhatsApp:+1 989-394-3740 I’m giving credit to his Service .They grant me the sum 2,000,000.00 Euro. within 5 working days.Mr Benjamin work with  group investors into pure loan and debt financing at the  low ROI to pay off your bills or buy a home Or Increase your Business. please I advise everyone out there who are in need of loan and can be reliable, trusted and capable of repaying back at the due time of funds.

    ReplyDelete