Wednesday 25 April 2012

โออิชิขยายโรงงาน3พันล้าน


โออิชิ อัด 3,000 ล้าน ลงทุนโรงงานเก่า ขยายพื้นที่โรงงานใหม่ และครัวกลางแห่งใหม่ เผยกำลังมองหาพื้นที่นอกนวนคร พร้อมเดินแผนรีเฟรชแบรนด์ ชาคูลล์ซ่า  ตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนการขายจาก 150 ล้าน เป็น 1,200 ล้าน ปลายปีเตรียมนำโออิชิบุกตลาดต่างประเทศ เล็ง 5 ปี ดันสัดส่วนยอดขายเพิ่มเป็น 30% จากปัจจุบัน ทำรายได้ 150 ล้าน จากยอดรายได้รวม 9,500 ล้าน พร้อมดึงเสริมสุข เสริมกำลังขยายช่องทางขาย

นายแมทธิว กิจโอธาน ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สายการงานธุรกิจต่างประเทศ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) และกรรมการผู้จัดการ บมจ.โออิชิ กรุ๊ป(OISHI) เปิดเผย "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า ปีนี้บริษัทได้ลงทุนโรงงาน รวมถึงการเพิ่มครัวกลางสำหรับแบรนด์อาหารโออิชิ รวมทั้งการขยายสาขาของร้านอาหารโออิชิ อีก 30 สาขา ด้วยงบลงทุนรวมกว่า 1,500 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้กำลังมองหาพื้นที่ใหม่ในการจัดตั้งโรงงานและครัวกลางแห่งใหม่ ส่วนโรงงานที่นวนคร ลงทุนเครื่องจักรใหม่ด้วยงบอีก 1,500 ล้านบาท อยู่ระหว่างการติดตั้ง และทดสอบเครื่องจักร คาดว่าจะเริ่มเดินสายการผลิตได้ประมาณเดือนสิงหาคม 2555 นี้



ส่วนแผนการตลาด เป้าหมายในปีนี้ คือการรุกตลาดเครื่องดื่มชาเขียวที่เป็นนวัตกรรมต่อเนื่อง จากปีที่แล้วที่มีสินค้านวัตกรรม อาทิ โออิชิ ฟรุตโตะ และชาคูลล์ซ่า รวมทั้งการออกแพ็กเกจจิ้งกระป๋อง ทำให้สามารถรุกตลาดต่างจังหวัดได้ดีขึ้น จากปริมาณความจุ 320 มล.ที่ไม่มากนัก สามารถดื่มได้ทีเดียว ประกอบกับแพ็กเกจจิ้งกระป๋อง เมื่อแช่เย็นจะได้ความเย็นสดชื่น ขณะที่แพ็กเกจจิ้งมีความสะดวกในการดื่ม และการหาซื้อนวัตกรรมเหล่านี้ ถือเป็นการสร้างเทรนด์ตลาดใหม่ๆ สร้างตลาดใหม่ๆ ให้กับสินค้า

"ทิศทางการตลาดของโออิชิและไทยเบฟ คือ การสร้างให้เกิดอิมแพ็กต์ในตลาด ด้วยการใช้นวัตกรรม ต้องสร้างสินค้า ก่อนที่คนจะต้องการ เหมือนแอปเปิล เป็นแนวคิดที่เราจะสร้างพฤติกรรมใหม่ให้กับผู้บริโภค ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค เช่น ชาคูลล์ซ่า โดยเราต้องรู้ทันเทรนด์ สุขภาพ ความซ่า ช่วยให้ความสดชื่น ทั้งนั้นคือ การสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้า" นายแมทธิวกล่าวและว่า

ปีนี้บริษัทจะนำเสนอนวัตกรรมสินค้าเพิ่มต่อเนื่อง รวมทั้งการออกแพ็กเกจจิ้งใหม่ๆ มานำเสนอให้กับตลาด โดยจะใช้กลยุทธ์ในการดึงคนดื่มน้ำดำและน้ำสี ให้มาดื่มชาเขียวมากขึ้นหลังจากทำแคมเปญใหญ่ "ไปแต่ตัว...ทัวร์ยกแก๊ง 555" แล้ว โออิชิ ตัวมีแผนในการรุกตลาดชาคูลล์ซ่าอีกครั้ง หลังจากวางตลาดปีที่แล้ว ได้เสียตอบรับดีมาก ชาคูลล์ซ่ามียอดขาย 1 ล้านลังต่อเดือน หรือประมาณ 20 ล้านกระป๋อง รวมยอดขายกว่า 70 ล้านบาทต่อเดือน คิดเป็น 800 กว่าล้านบาทต่อปี เป้าหมายปีนี้จะขยายตลาด ชาคูลล์ซ่าให้ได้ 1,200 ล้านบาท และตั้งเป้าเพิ่มยอดขายให้ได้ 10% ของตลาดเครื่องดื่มน้ำอัดลมมูลค่ากว่า 3.8 หมื่นล้านบาท ภายใน 5 ปี

ขณะนี้ตลาดชาเขียวรวมกว่า 9 พันล้านบาทในปีที่แล้ว โออิชิมีสัดส่วนรายได้เกือบ 60% หรือประมาณ 5,350 ล้านบาท ปีนี้คาดว่าจะสามารถเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดให้กลับมาอยู่ที่ 60% ได้เช่นเดิม จากตลาดรวมชาเขียวกว่า 9,500 ล้านบาท ที่คาดว่าจะเติบโตอีกประมาณ 20% หรือมีมูลค่าตลาดประมาณ 11,000 ล้านบาท โดยปัจจุบันโออิชิมียอดขายเกือบ 7,000 ล้านบาท เติบโตเกือบ 26%

สำหรับปีนี้ตั้งเป้ารายได้ชาเขียวโออิชิเติบโต 25% จากปีที่ผ่านมา แบ่งสัดส่วนเป็น โออิชิ ขวด PET ขนาด 500 มล. 50-60% กล่องยูเอชที ขนาด 250 มล. 25-30% ฟรุ๊ตโตะ และชาคูลล์ซ่า อีกประมาณ 10% โดยโออิชิฟรุ๊ตโตะ ตั้งเป้ายอดขาย 500 ล้านบาท โออิชิ ชาคูลล์ซ่า 1,200 ล้านบาท
ส่วนธุรกิจอาหาร นอกจากการลงทุนสร้างครัวกลางใหม่ ยังเตรียมขยายสาขาในปีนี้ 30 สาขา ประกอบด้วย ชาบูชิ 15 สาขา โออิชิ ราเมน 5 สาขา นิคูยะ บุฟเฟต์ 5 สาขา โออิชิ บุฟเฟต์ 2 สาขา และคาโซคูเตะ 3 สาขา จากปัจจุบันมีทั้งหมด 129 สาขา และยังมีเป้าขยายสาขาเพิ่มเป็น 300 สาขาในอนาคต โดยตั้งเป้ารายได้ 1.3 หมื่นล้านบาท จากปีที่แล้วมีรายได้กว่า 5,000 ล้านบาท

นายแมทธิว กล่าวอีกว่า โออิชิยังมีแผนขยายตลาดต่างประเทศ โดยมั่นใจในตราสินค้า ที่มีความชัดเจนในความเป็นเครื่องดื่มชาเขียวญี่ปุ่น ที่สามารถจะรุกเข้าสู่ตลาดต่างประเทศได้ ซึ่งขณะนี้โออิชิจดทะเบียนในตลาดต่างประเทศแล้ว และจะเริ่มทำตลาดที่ยุโรปก่อน ประมาณสิ้นปีนี้ โดยใช้เครือข่ายที่มีความพร้อมของไทยเบฟสนับสนุน ส่วนการตั้งโรงงานในต่างประเทศ ขณะนี้ไม่มีความจำเป็น หลังจากการเปิดประชาคมอาเซียน และตั้งเป้าจะเพิ่มสัดส่วนยอดขายในต่างประเทศจากปัจจุบันที่มีรายได้เพียง 150 ล้านบาท เพิ่มเป็น 30% ของยอดรายได้รวม และพร้อมที่จะนำธุรกิจอาหารออกรุกตลาดต่างประเทศด้วยเช่นกัน

ส่วน บมจ.เสริมสุข ที่มีความแข็งแกร่งด้านช่องทางการจัดจำหน่าย ที่ผ่านมา เสริมสุขจัดจำหน่ายให้กับเครื่องดื่มโออิชิอยู่แล้ว และในปีนี้จะเริ่มจำหน่ายชาคูลล์ซ่าโดยมีเป้าหมายผลักดันชาคูลล์ซ่าให้ตีตลาดน้ำอัดลมต่อไป

No comments:

Post a Comment