Sunday 19 June 2011

"บิ๊กโคล่า"บุก"ร้านอาหาร"ล่าแชมป์น้ำอัดลม สนให้"เสริมสุข"ช่วยขายสินค้า

บิ๊กโคล่าเดินหน้าไล่ล่าแชมป์น้ำอัดลม หลังสอบผ่านฉลุยเรื่องภาพลักษณ์แบรนด์ ประกาศลั่นส่วนแบ่งตลาด 22% วาดเป้าเพิ่มเป็น 25% ในสิ้นปี อุดช่องโหว่เตรียมส่งขวดเพ็ตบุกร้านอาหารในกรุงเทพฯ ขอแชร์ 5% สิ้นปี สบช่องว่างตลาดเดินหน้าเจาะกลุ่มเด็กเต็มที่ พร้อมจับมือพันธมิตรใหม่เพียบ ชูไทยเป็นโมเดลธุรกิจกลุ่มอาเจทั่วโลก 

มั่นใจอีก 4 ปี แบรนด์อิมเมจ-แชร์ทัดเทียมเป๊ปซี่-โค้ก เผยสนให้เสริมสุขขายสินค้าแต่ยังไม่ได้เจรจากัน

นายชนินทร์ เทียนเจริญ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท อาเจ ไทย จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายแบรนด์น้ำดำบิ๊ก โคล่า เปิดเผยว่า บริษัทประสบความสำเร็จอย่างสูงจากกลยุทธ์ "ไลฟ์สไตล์ มาร์เก็ตติ้ง" จากการนำดนตรี กีฬา ภาพยนตร์ ฯลฯ รุกเข้าไปหาผู้บริโภค โดยเฉพาะ "กีฬา" ที่ได้เข้าไปเป็นสปอนเซอร์ให้กับบิ๊กอีเวนต์ต่าง ๆ อาทิ ทีมชาติอังกฤษ, เอฟเอคัพ, ฟุตบอลยูโร ฯลฯ ที่ช่วยยกระดับภาพลักษณ์ของแบรนด์บิ๊กโคล่าชั่วข้ามคืน ทำให้การเข้าไปเจาะตลาดในประเทศอื่น ๆ ทำได้ง่ายขึ้น ทั้งเวียดนาม อินเดีย อินโดนีเซีย ที่เพิ่งเปิดตลาดนั้นประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว



ขณะเดียวกันบริษัทยังพยายามเจาะไปยังกลุ่มมัธยมต้น-ปลาย หรือ Gen-Y ซึ่งถือเป็นช่องว่างทางการตลาดสำหรับน้ำอัดลม เนื่องจากคู่แข่งทั้งเป๊ปซี่และโค้กจะมุ่งเจาะไปยังกลุ่มวัยรุ่น เด็กมหาวิทยาลัย ผ่านกิจกรรมต่าง ๆ ต่อเนื่องทำให้มีความแข็งแกร่งอย่างยิ่ง นอกจากนี้บริษัทยังมองถึงการสร้างฐานลูกค้าหรือแบรนด์ลอยัลตี้ตั้งแต่เด็กเพื่อเป็นแฟนพันธุ์แท้ในอนาคต

"ยุทธศาสตร์ของเราชัดเจน อย่างกีฬาที่เลือกเข้าไปทำกิจกรรมด้วยนั้นก็จะเน้นที่กีฬาแนวเอ็กซ์ตรีม หรือเป็นงานอดิเรกที่ทุกคนมาทำกิจกรรมร่วมกันในลักษณะของแก๊ง เพื่อสร้างคอมมิวนิตี้ให้เกิดขึ้น อาทิ ขับมอเตอร์ไซค์, จักรยานโบราณ, บีบีกัน ฯลฯ"

นายชนินทร์กล่าวว่า ยุทธศาสตร์ที่มุ่งไปที่กลุ่มเด็กนั้นถือเป็นโมเดลธุรกิจที่ประสบความสำเร็จอย่างยิ่ง ส่งผลให้ขณะนี้อาเจทั่วโลกเริ่มนำกลยุทธ์ดังกล่าวไปใช้ ล่าสุดจากการวิจัยผู้บริโภคพบว่า "บิ๊กโคล่า" เป็นแบรนด์อันดับ 1 ในใจผู้บริโภคในกลุ่มอายุ 10-14 ปี

ปัจจุบันบิ๊กโคล่ามีส่วนแบ่งในตลาดน้ำอัดลม 22% จากมูลค่า 35,000 ล้านบาท ตั้งเป้าสิ้นปี 25% โดยคาดว่าภายในปี 2558 หรืออีก 4 ปีข้างหน้าจะขึ้นไปทัดเทียมกับเป๊ปซี่-โค และโคคา- โคลา ทั้งในแง่ภาพลักษณ์และส่วนแบ่งทางการตลาด โดยตั้งเป้าที่ 30% ซึ่งเชื่อว่าขณะนั้นทั้ง 3 ค่ายจะมีส่วนแบ่งใกล้เคียงกัน โดยภารกิจที่ต้องเร่งมือคือ การเปิดช่องทางร้านอาหารซึ่งจะเริ่มในครึ่งปีหลังนี้ โดยตั้งเป้าสิ้นปีมีส่วนแบ่งตลาดในช่องทางนี้ 5% โดยจะมุ่งเจาะไปยังเขตกรุงเทพฯเป็นหลัก ในรูปแบบขวดเพ็ทซึ่งเป็นจุดเด่นของบิ๊กโคล่า ปัจจุบันน้ำอัดลมในร้านอาหารคิดเป็นสัดส่วน 20-30% จากตลาดรวม

ทั้งนี้ บริษัทเตรียมเปิดตัวเครื่องดื่ม เกลือแร่สปอเรท (Sporade) ในเร็ว ๆ นี้ รวมถึงทำตลาดน้ำดื่มเซียโล่ (Cielo) ที่วางตลาดแล้วในช่วงที่ผ่านมา อนาคตยังเตรียมเปิดตัวน้ำผลไม้และเครื่องดื่มชูกำลัง เพื่อให้ครอบคลุมเครื่องดื่มทุกประเภท สาเหตุเพื่อต้องการเติมเต็มพอร์ตและบาลานซ์ความเสี่ยงในอนาคต เนื่องจากตลาดน้ำอัดลมช่วงที่ผ่านมาไม่ได้เติบโตมากนัก

นายชนินทร์ยังกล่าวถึงประเด็นความเป็นไปได้ในการร่วมมือกับ "เสริมสุข" เพื่อเป็นผู้จัดจำหน่ายสินค้าให้ในอนาคต โดยยอมรับว่า มีความสนใจ แต่ยังไม่ได้มีการเจรจาพูดคุยในรายละเอียด โดยเรื่องนี้ขึ้นอยู่กับทางเสริมสุขมากกว่า ว่าติดเงื่อนไขอะไรหรือไม่

No comments:

Post a Comment