น้ำท่วมใหญ่เกิดขึ้นในช่วง 1-2
เดือนที่ผ่านมา ทำให้สินค้าหลายตัวหายไปจากชั้นวางสินค้าชั่วคราว
ด้วยสาเหตุแตกต่างกันตั้งแต่ไลน์การผลิตหยุดชะงัก น้ำท่วมโรงงานจมมิด
คลังสินค้าน้ำท่วม ไปจนถึงเส้นทางขนส่งถูกตัดขาด
ทำให้การนำสินค้าเข้าสู่ร้านค้าทั่วไปหยุดชะงักลง
รวมทั้งเครื่องดื่มของกลุ่มโคคา-โคลาในประเทศไทย
ที่หัวใจผลิตในโรงงานผลิตหัวเชื้อเครื่องดื่มเกือบทุกประเภทของบริษัทที่นิคมอุตฯไฮเทค
ต.บ้านเลน อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยาถูกน้ำท่วมมาตั้งแต่วันที่ 12 ตุลาคม
ผ่านมา 1 เดือนเต็ม
ความเสียหายที่เกิดขึ้นยังประเมินค่าไม่ได้ แต่โคคา-โคลา (ประเทศไทย)
ยังเดินหน้าจัดหาสินค้าเข้าสู่ตลาดไปพร้อมกับการสร้างสรรค์โครงการ
"ผลึกพลังบวก กับโคคา-โคลา" ผ่านการบรรเทาทุกข์ (Relief)
และฟื้นฟูซ่อมสร้าง (Rebuild) ทั้งสังคมและธุรกิจไทยไปพร้อมกัน
"ฆอเฮ การ์ดูโน"
ผู้จัดการทั่วไป บริษัท โคคา-โคลา (ประเทศไทย) จำกัด ให้สัมภาษณ์พิเศษ
"ประชาชาติธุรกิจ" ระหว่างคิกออฟกิจกรรม "ฟื้นฟูซ่อมสร้าง" ณ
ลานพระบรมราชานุสาวรีย์พระเจ้าอู่ทอง จ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อวันที่ 13
พฤศจิกายนที่ผ่านมา
- ทำไมจึงเลือกคิกออฟกิจกรรม
ฟื้นฟูฯที่พระนครศรีอยุธยา
ที่เลือกทำพระนครศรีอยุธยาเป็น
ที่แรก เพราะพระนครศรีอยุธยาน้ำลดลงแล้ว อีกเหตุผล
คือเรามีโรงงานผลิตหัวเชื้อน้ำอัดลมที่นิคมอุตสาหกรรมไฮเทค จ.พระนครศรี อยุธยา
ซึ่งน้ำท่วมทั้งหมด เรามี คนทำงานส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในพระนครศรีอยุธยา
มีพนักงานอยู่ที่นี่กว่า 30 ครอบครัว
จึงถึงเวลาที่จะใช้พลังบวกของคนในประเทศไทยเข้ามาฟื้นฟู
นำพลังบวกของคนที่เชื่อมั่น ในแบรนด์ของเรา มาสร้างการเปลี่ยนแปลงในทางบวกร่วมกัน
โคคา-โคลา ทำธุรกิจใน 206
ประเทศ เราเป็นแบรนด์ระดับโลกที่มีพันธมิตรในประเทศที่เป็นส่วนหนึ่งของชุมชน
เราจึงมีหน้าที่ให้คืนกับสังคม อย่างผู้คนที่มาร่วมงานวันนี้ 1,000 กว่าคน
ส่วนหนึ่งเป็นพนักงานของเราที่มาจากหลายแผนก
แต่ส่วนใหญ่เป็นอาสาสมัครที่รับรู้ว่ามีกิจกรรมนี้เพียงไม่กี่วันก่อนงาน
และสมัครเข้ามาผ่านทางเว็บไซต์ iCoke
จากประสบการณ์ทำงานกับโคคา-โคลามาตลอด
20 ปี ครั้งนี้เป็น ครั้งแรกที่โคคา-โคลาหยุดใช้งบฯสำหรับทำโฆษณาในทุกแบรนด์
ระหว่างเดือนตุลาคม-พฤศจิกายน
มาทำโครงการบรรเทาทุกข์และฟื้นฟูประเทศไทยจากเหตุการณ์อุทกภัย มูลค่ารวม 60
ล้านบาท เป็นเงินจากงบฯโฆษณาที่งดไป และอีกส่วนจากมูลนิธิโคคา-โคลา
- ธุรกิจปรับตัวอย่างไร
ระหว่างโรงงานน้ำท่วม
เนื่องจากโรงงานผลิตหัวเชื้อน้ำ
ทุกแบรนด์ของบริษัทที่นิคมอุตสาหกรรมไฮเทคจมน้ำอยู่
แต่มีแผนสำรองด้วยการสั่งนำเข้าหัวเชื้อจากโรงงานประเทศอื่นเข้ามา
ทำให้การผลิตน้ำอัดลมไม่มีปัญหาด้าน การผลิต
แต่ได้รับผลกระทบจากปัญหาการจัดจำหน่ายมากกว่า เนื่อง จากถนนหลายเส้นทางปิดการจราจร
ส่วนโรงงานผลิตบรรจุขวด (bottling)
ต้องหยุดผลิตไปบางส่วน เช่น โรงงานของไทยน้ำทิพย์ที่ปทุมฯ
ซึ่งโรงงานน้ำไม่ท่วม แต่น้ำล้อมคนงานมาทำงานลำบากจึงต้องหยุดไลน์ผลิตไปบ้าง
อีกทั้งตั้งแต่สัปดาห์ที่ 2
ของเดือนพฤศจิกายน บริษัทได้สั่งซื้อน้ำดื่มจากคู่ค้าในเวียดนาม มาเลเซีย ไต้หวัน
ฟิลิปปินส์ และกัมพูชา เข้ามาเพิ่มอีกจำนวน 5 ล้านขวด
เพื่อนำมาบริจาคให้สภากาชาดไทย
และในจำนวนนี้นำเข้ามาเพื่อให้มั่นใจว่าการผลิตของบริษัทยังดำเนินต่อไป
และเพื่อกระจายน้ำดื่มให้กับผู้บริโภคที่ต้องการซื้อหาน้ำดื่มในตลาด
ขณะเดียวกัน
สายการผลิตน้ำดื่มบรรจุขวด "น้ำทิพย์" ยังคงเดิน เครื่องผลิต 24 ชั่วโมง
ทุกวัน ไม่มีหยุด ตอนนี้ผลิตได้วันละประมาณ 1 ล้านขวดด้วยซ้ำ
-
คาดว่าโรงงานจะกลับมาดำเนินการได้ตามปกติเมื่อไหร่
ความจริงแล้ว
อาจต้องใช้เวลาหลายเดือน กว่าทุกอย่างจะฟื้นตัวสู่ภาวะปกติ
แต่เราก็ได้พยายามกู้โรงงานและกระบวนการผลิตที่เสียหายไปทีละอย่างเท่าที่พอทำได้อยู่
ซึ่งการดำเนินการต่าง ๆ ด้วยการแบ่งทรัพยากร บุคลากร
และกำลังที่บริษัทมีอยู่ให้กลับฟื้นฟู ทั้งส่วนของการฟื้นฟูธุรกิจและบรรเทาทุกข์
ฟื้นฟูซ่อมสร้างสังคมแล้ว
- มูลค่าความเสียหายจากอุทกภัยครั้งนี้เท่าไหร่
อืม...ยังเร็วเกินไปที่จะตอบ
ยังไม่ได้ประเมินความเสียหายที่เกิดจาก น้ำท่วมโรงงานในนิคมอุตสาหกรรมไฮเทค
ดังนั้น จึงยากที่จะระบุใน ตอนนี้ว่าเสียหายไปเท่าไหร่ แม้ว่า
น้ำท่วมจะทำให้เกิดการชะงักในการดำเนินธุรกิจและทำให้บริษัทเสียโอกาสในธุรกิจอย่างมาก
เนื่องจากมีความเสียหายที่โรงงานและคลังสินค้าบางส่วน
เราจึงทำได้เพียงการรอและเฝ้าดู
-
จะได้เห็นโค้ก-แฟนต้าในไฮเปอร์มาร์เก็ตและร้านสะดวกซื้อเมื่อไหร่
เข้าใจว่า
ถ้าตอนนี้คุณเข้าไปในซูเปอร์มาร์เก็ตและร้านสะดวกซื้อ หรือแม้แต่ร้านของชำที่เป็นพันธมิตรของเรา
คุณก็จะสามารถหา ผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่ของเราได้แล้วนะ ไม่ว่าจะเป็นโค้ก แฟนต้า สไปรท์
และเครื่องดื่มรสต่าง ๆ ซึ่งไม่รวมสินค้าประเภทอาหาร
คุณสามารถหาเครื่องดื่มของเราได้ตั้งแต่วันนี้ แม้จะไม่ได้ครบทุกขนาดก็ตาม
No comments:
Post a Comment