Monday 26 March 2012

P&G ในลู่วิ่งอาเซียน ขับเคลื่อนด้วยสินค้า "บิวตี้"



พรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล หรือ "พีแอนด์จี" ผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคอันดับ 1 ของโลก ถึงวันนี้เป็นปีครบรอบ 25 ปีที่การดำเนินธุรกิจในไทย ขณะที่ทั่วโลกเป็นการก้าวสู่ปีที่ 175 สถานะของพีแอนด์จีไทยวันนี้คือ "ศูนย์กลางของอาเซียน" ที่ถือเป็นตลาดที่มีสัดส่วนรายได้มากที่สุดและเติบโตเร็วที่สุด ขณะเดียวกันก็เป็นฐานการส่งออกสินค้าเกี่ยวกับ "บิวตี้แคร์" คือกลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมและดูแลผิวที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย และทำให้ไทยเป็นประเทศยุทธศาสตร์สำคัญของยักษ์ใหญ่รายนี้



นอกจากโรงงานในประเทศไทยแล้ว พีแอนด์จียังมีโรงงานอีก 3 แห่งในกลุ่มประเทศอาเซียน ได้แก่ เวียดนาม อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ โดยเวียดนามเป็นฐานผลิตกลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลเสื้อผ้า ได้แก่ ผงซักฟอกไทด์และน้ำยาปรับผ้านุ่มดาวน์นี่, อินโดนีเซียเป็นฐานผลิตผ้าอ้อมสำเร็จรูปแพมเพอร์ส และฟิลิปปินส์เป็นฐานผลิตแพมเพอร์สและวิสเปอร์

ในโอกาสครบรอบ 25 ปีในไทย มร.ราอูล ฟอลคอน กรรมการผู้จัดการ พีแอนด์จี (ประเทศไทย) มีวิสัยทัศน์และการขับเคลื่อนองค์กรเพื่อรองรับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือเออีซี ใน

ปี 2558 อย่างน่าสนใจ

- เตรียมตั้งรับเออีซีอย่างไร

ขณะนี้เศรษฐกิจของโลกหมุนมาที่ภูมิภาคเอเชีย ในเอเชียมีสัดส่วนรายได้ถึง 16% ของพีแอนด์จีทั่วโลก เป็นภูมิภาคที่เติบโตด้านยอดขายมากที่สุด เทียบกับทวีปอื่น ๆ ที่มีปัญหาด้านเศรษฐกิจมากมาย อาทิ ยุโรป

ส่วนในเอเชียแบ่งออกเป็นคลัสเตอร์ ได้แก่อาเซียน ซึ่งไทยเป็นหนึ่งในนั้น รวมถึงญี่ปุ่น จีน และอินเดีย ฐานะของไทยถือเป็น engine of growth เพราะผลประกอบการของไทยจะนำไปสู่การ built ธุรกิจของอาเซียน และการเติบโตในเอเชีย

หากมองที่จำนวนแคทิกอรี่ของพีแอนด์จีทั่วโลก ซึ่งมี 38 แคทิกอรี่ แต่ละภูมิภาค แต่ละประเทศจะมี 19-20 แคทิกอรี่ ส่วนไทยมี 9-10 แคทิกอรี่ จึงมีช่องว่างจะเติบโตได้อีกมาก และเรามีแผนการต่าง ๆ ให้ไทยเป็น engine of growth จริง ๆ จากนี้

- แผนการขยายธุรกิจในไทย

ย้อนกลับมาที่จุดมุ่งหมายของเรา คือ touching lives, improving life เราต้องการมีสินค้าครอบคลุมทุกพื้นที่ในไทย กลุ่มผู้บริโภค เรามองเรื่องการขยายแคทิกอรี่ในไทย จำนวนพอร์ตโฟลิโอของผลิตภัณฑ์ แคทิกอรี่ใหม่ ๆ นวัตกรรมของสินค้า จากนี้จะมีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ เพื่อเพิ่ม พอร์ตโฟลิโอ วางแผนครอบคลุมตลาดในทุก ๆ กลุ่ม ยกตัวอย่างผลิตภัณฑ์แบบซอง ที่ครอบคลุมพื้นที่ต่าง ๆ ในต่างจังหวัดได้

สำหรับอาเซียนที่เราเป็นฮับ แน่นอนว่าสถานะของพีแอนด์จีที่เรามีโรงงานระดับภูมิภาคอยู่ในประเทศไทย เพื่อเตรียมพร้อมเป็นฮับ และเป็นโกลบอลซัพพลายเชนในผลิตภัณฑ์บิวตี้แคร์ เพราะปัจจุบันถือว่าเป็นโรงงานที่ใหญ่ที่สุดแล้ว ถ้าเทียบในพีแอนด์จีเอง ไทยถือเป็นผู้ผลิตและส่งออกบิวตี้แคร์อันดับ 1 ของเอเชีย

สิ่งที่เรามองโอกาสของเออีซี คือการ free flow ของผลิตภัณฑ์ ซึ่งเรามีผลิตภัณฑ์หลากหลายในแต่ละประเทศ นอกจากนี้ยังมองการ free flow ของบุคลากรด้วย ย้อนกลับมา คืออยากฟูมฟักพนักงานให้เขาเติบโตไป เพื่อรับกับเออีซี เราเตรียมพร้อมแล้ว

- ยุทธศาสตร์ในโอกาสครบรอบ 25 ปี

เริ่มต้นจากจุดมุ่งหมายของเรา เข้าถึงผู้บริโภคและพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้บริโภค คนรุ่นปัจจุบันและคนที่จะเกิดขึ้นในอนาคต จะเพิ่มครอบคลุมทุกพื้นที่ ทั่วถึงทุกพื้นที่ในตลาดประเทศไทย ครอบคลุมกลุ่มผู้บริโภคในทุก ๆ เซ็กเมนต์

ยุทธ์ศาสตร์แรกคือพัฒนานวัตกรรม ต่อปีบริษัทใช้งบฯลงทุนวิจัยและพัฒนาถึง 2 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ มีประสิทธิภาพมากขึ้น ตอบสนองผู้บริโภคในไลฟ์สไตล์ใหม่ ๆ ไม่ใช่แค่ผลิตภัณฑ์ แต่นวัตกรรมยังหมายถึงโมเดลธุรกิจใหม่ ๆ เช่น มีโปรแกรมใหม่ ๆ สำหรับลูกค้าที่เป็นช่องทางจัดจำหน่าย หรือเทรดพาร์ตเนอร์

ยุทธศาสตร์ที่ 2 คือพัฒนาบุคลากรให้มีความสามารถ และก้าวหน้าในหน้าที่การงานในระดับสากล ไม่เพียงประเทศไทย ปัจจุบันเรามีคนไทย 35 คนทำงานระดับผู้บริหารในระดับภูมิภาค และจะเพิ่มขึ้นทุกปี เป็นส่วนหนึ่งของการเตรียมพร้อม เพื่อสอดรับกับเออีซีที่จะเกิดขึ้นด้วย

ยุทธศาสตร์ที่ 3 คือการพัฒนาอย่างยั่งยืน ทั้งเรื่องสิ่งแวดล้อม และพัฒนาสังคม ชุมชน ในส่วนของชุมชนเรามีพันธกิจ Live, Learn and Thrive มีโครงการรักเรียน เรียนอย่างเป็นสุข จับมือ 7 พันธมิตร ดูแลเด็กด้อยโอกาส เด็กเร่ร่อนให้เข้าถึงการศึกษา อีกด้านคือแผนพัฒนาอย่างยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม ตรงนี้เรามีเป้าหมายใหญ่ของโกลบอลที่ท้าทาย อาทิ ใช้พลังงานหมุนเวียนในกระบวนการผลิตทั้งหมด 100% เป็นต้น

- แคทิกอรี่ที่จะนำเข้ามาในไทย

คงไม่สามารถเฉพาะเจาะจงได้ว่าจะมีอีกแคทิกอรี่ในอนาคต แต่ยกตัวอย่าง 3 แคทิกอรี่ใหม่ที่เพิ่มขึ้นในช่วงที่ผ่านมา คือสินค้าในกลุ่มผู้ชาย, กลุ่มผลิตภัณฑ์ปรับอากาศ หรือแอร์แคร์ ภายใต้แบรนด์แอมบิเพอร์ และมีดาวน์นี่ ที่เราขยายจากเดิม

- ยังขับเคลื่อนด้วยบิวตี้แคร์เป็นหลัก

กลุ่มบิวตี้แอนด์กรูมมิ่ง เป็นกลุ่มที่สำคัญในเอเชียและอาเซียน แผนงานต่าง ๆ ยังขับเคลื่อนในเรื่องนี้ จริง ๆ มาจากสิ่งที่

ผู้บริโภคเป็นด้วย วันนี้คนให้ความสำคัญกับความสวย ความงาม รูปลักษณ์ ผลิตภัณฑ์ดูแลผู้ชายก็เติบโตมาก ดังนั้น กลุ่มนี้ยังเป็นตัวหลักสร้างการเติบโต และมีสัดส่วนใหญ่ที่สุดในพีแอนด์จีทั่วโลก

สำหรับในไทย คนไทยตื่นตัวและให้ความสำคัญกับเรื่องความสวยความงาม นอกจากผู้หญิงก็ยังผู้ชายด้วยที่ดูแลตัวเอง สะท้อนมาที่ยอดขาย สกินแคร์ของเราโตที่สุดในอาเซียน แฮร์แคร์ คอนดิชั่นเนอร์ เราเติบโตที่สุด ยอดขายเกือบครึ่งหนึ่งของอาเซียน เราให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาก

- ตั้งเป้าเป็นที่ 1 ในทุกตลาด

เป็นวิชั่นที่จะให้พีแอนด์จีเป็นบริษัทสินค้าอุปโภคบริโภคที่เติบโตเร็วที่สุด และเป็นผู้นำในทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์ ปัจจุบันโอเลย์เป็นผู้นำในตลาดสกินแคร์ในไทย ดาวน์นี่เป็นผู้นำน้ำยาปรับผ้านุ่มชนิดเข้มข้น และเติบโตสูงสุดในเอเชีย อนาคตเราตั้งเป้าเป็นที่ 1 ในกลุ่มดูแลเส้นผมแซงคู่แข่งของเรา

- ตลาดไทยท้าทายอย่างไร

สิ่งที่ท้าทายเหมือนทุกบริษัท คือ การแข่งขันตลาดที่สูง แต่ความท้าทายที่แท้จริงคือ ภายใน จะทำอย่างไรในการเพิ่มประสิทธิภาพ ลดขั้นตอนการดำเนินงาน ลดความซ้ำซ้อน ซึ่งจะนำไปสู่การเพิ่มผลประกอบการ อันนี้คือความท้าทายหลัก

นอกจากนี้ ยังเป็นเรื่องการใช้สื่อดิจิตัลที่เติบโตขึ้น การเข้าถึงผู้บริโภคตั้งแต่นี้ไป ต้องเจาะกลุ่มเป้าหมาย เพราะปัจจุบันเป็นโลกของการสื่อสาร ไม่ใช่แค่สื่อทีวี เรากำลังพัฒนาในส่วนนี้มากขึ้น

No comments:

Post a Comment