Monday 3 October 2011

ชาเขียวแข่งอัดงบปลุกกำลังซื้อ


ตลาดชาพร้อมดื่ม สีสันสะพรั่ง แบรนด์ยักษ์ใหญ่เจ้าตลาด แข่งเทงบนอกซีซัน เรียกกำลังซื้อ ผลักดันยอดขายเข้าเป้า โออิชิ ทุ่มกว่า 80 ล้าน อัดแคมเปญ "รวยฝาประทาน ฝันเป็นล้าน" พร้อมส่งโปรโมชันราคาช่องทางขาย มั่นใจสร้างยอดขายไตรมาสสุดท้าย 1,500 ล้าน ดันการเติบโตถึงสิ้นปีตามเป้า 25% ด้านเพียวริคุ ดึงแบรนด์แอมบาสซาเดอร์ "เป้-อารักษ์"  เทงบเพิ่มกว่า 10% อัดกิจกรรมส่งเสริมการขายครบวงจร มั่นใจดันยอดขายเติบโต 20% อิชิตัน แข่งเติมรสชาติใหม่ และขยายช่องทางเทรดดิชันนัล มิเรอิ อัดงบ 300 ล้าน ปั้นยอด 1,000 ล้าน

นายอนิรุธธิ์ มหธร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายงานธุรกิจเครื่องดื่ม บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด(มหาชน) เปิดเผยว่า ปีนี้ถือเป็นปีแรกที่บริษัททุ่มงบทำแคมเปญการตลาดใหญ่นอกช่วงไฮซีซัน โดยมุ่งหวังกระตุ้นยอดขายให้เติบโตขึ้น จากปกติที่มียอดขายเฉลี่ยเดือนละ 400 ล้านบาท ขยับเพิ่มเป็น 500 ล้านบาท หรือประมาณ 1,500 ล้านบาท ในช่วงไตรมาสสุดท้าย ด้วยการใช้งบการตลาดกว่า 80 ล้านบาท จากงบการตลาดรวมทั้งปีประมาณ 10% ของยอดขายทั้งหมด จัดแคมเปญการตลาดใหญ่ "รวยฝาประทาน ฝันเป็นล้าน" ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม - 20 ธันวาคมนี้

นอกจากนี้ ยังออกรสชาติใหม่เครื่องดื่มของโออิชิ เริ่มตั้งแต่ต้นเดือนตุลาคม ออกโออิชิ คิคุชะ น้ำชาเขียวญี่ปุ่น ผสมเก๊กฮวย ขนาด 350 มล. ราคา 13 บาท กลางเดือนตุลาคม จะออกโออิชิ ฟรุตโตะ 2 รสชาติใหม่ คือ โกจิ เบอรี่ และ สตอร์เบอรี่ขนาด 350 มล.ราคา 13 บาท และโออิชิ กรีนที ขวด PET ขนาด 1 ลิตร 4 รสชาติ ราคา 30 บาทโดยก่อนหน้านี้มีแบบกล่องยูเอชทีขนาด 1 ลิตร จำหน่ายอยู่แล้วในราคา 35 บาท



"ภาพรวมปีนี้ 3 ไตรมาสแรก ตลาดชาเขียว ประมาณ 8,000 ล้าน เติบโตน้อยกว่า 3 ไตรมาสของปีที่แล้ว ซึ่งเติบโต 20% โดยทั้งกลุ่มของเครื่องดื่มนอนแอลกอฮอล์ เติบโตเพียง 7-8% เนื่องจากสภาพอากาศ"  นายอนิรุธธิ์กล่าวและว่า สำหรับโออิชิ 3 ไตรมาสแรก ยอดขายเติบโตประมาณ 18-20% จากภาพรวมที่เติบโต 15% การที่โออิชิจัดแคมเปญโปรโมชันนอกฤดูกาลขาย พร้อมทั้งออกรสชาติใหม่ของเครื่องดื่มโออิชิ ถือเป็นการกระตุ้นยอดขายของเครื่องดื่มโออิชิไตรมาสสุดท้ายให้เติบโตเป้า 25% โดยจะมียอดขายรวมถึงสิ้นปีประมาณ 6,300 ล้านบาท ครองส่วนแบ่งตลาดประมาณ 65%  แบ่งสัดส่วนเป็น โออิชิ ขวด PET ขนาด 500 มล. 50-60% กล่องยูเอชที ขนาด 250 มล. 25-30% ฟรุตโต และชากุซ่า อีกประมาณ 10% โดยโออิชิฟรุตโตะ ตั้งเป้ายอดขาย 500 ล้านบาท โออิชิ ชากุซ่า 1,000 ล้านบาท

นายอนิรุธธิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ชากุซ่ายอดขายเติบโตมาก ขณะนี้มีการลงทุนเพิ่มเติมขยายกำลังผลิตเพิ่มถึง 3 เท่าตัว จากเดิมมีกำลังผลิต 10 ล้านกระป๋องต่อเดือน เพิ่มเป็น 20-25 กระป๋องต่อเดือน และบริษัทยังมีแผนออกชากุซ่ารสชาติใหม่ๆ รวมทั้งบรรจุภัณฑ์ใหม่ของแต่ละผลิตภัณฑ์ต่อเนื่อง และจะทำแอกติวิตีในแต่ละช่องทางขายต่อเนื่อง โดยเฉพาะโปรโมชันด้านราคา ซึ่งจะช่วยกระตุ้นยอดขาย โออิชิจะมีโปรโมชันกับช่องขายทุกเดือน

ด้านนางสาวสุวรรณดี ไชยวรุตม์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท ที ซี ฟาร์มาซูติคอล อุตสาหกรรม จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายชาขาวพร้อมดื่ม ภายใต้ชื่อ "เพียวริคุ"  กล่าวว่า บริษัทใช้งบการตลาดในปีนี้เพิ่มอีกกว่า 10% พร้อมเปิดตัวแบรนด์แอมบาสซาเดอร์คนใหม่ คือ  "เป้-อารักษ์" กับภาพยนตร์โฆษณาชุด  "เสียดาย"  เริ่มออกอากาศครั้งแรกตั้งแต่วันที่ 2 ตุลาคมนี้ เพื่อผลักดันยอดขายรสเก๊กฮวยขาว ซึ่งเป็นรสชาติที่ได้รับความนิยมสูงสุด โดยมีการทำกิจกรรมการตลาดแบบครบวงจร ทั้งโรดโชว์ ตามแหล่งชุมชนในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด เพื่อสร้างกระแสและกระตุ้นให้ผู้บริโภคเลือกดื่มเพียวริคุ คูล เก๊กฮวยขาวมากขึ้น คาดว่าจะช่วยกระตุ้นยอดขายเพียวริคุ คูล เก๊กฮวยขาว ให้เติบโตเพิ่มขึ้นอีก 20% โดยบริษัทไม่เน้นการแข่งขันด้านสงครามราคา เพราะทำราคาถูกมาตั้งแต่เริ่มต้นแล้ว

สำหรับทีซี ฟาร์มาซูติคอล แบ่งตลาดชาพร้อมดื่มออกเป็นเซ็กเมนต์ ได้แก่ เซ็กเมนต์ชาขาว เป็นกลุ่มที่มีการเติบโตมากสุดกว่า 52% จากสัดส่วนตลาด 20% ของตลาดรวม 8,000 ล้านบาท รองลงมาคือ เซ็กเมนต์ชาดำ มีสัดส่วน 19% เติบโตประมาณ 42% เซ็กเมนต์ชาเขียว กลุ่มที่ใหญ่ที่สุด มีสัดส่วนตลาด 61% มีการเติบโตเฉลี่ย 22%

สำหรับ บริษัท ทิปโก้ เอฟแอนด์บี จำกัด ได้เปิดตัว แบรนด์เครื่องดื่มชาเขียว มิเรอิ (Mirai) อย่างเป็นทางการปลายไตรมาส 3 โดยใช้งบการตลาดกว่า 300 ล้านบาท ในการสร้างแบรนด์ และแนะนำสินค้าให้เป็นที่รู้จักในตลาด เริ่มต้นด้วยการเปิดตัว 3 รสชาติ คือ มิเรอิ รสต้นตำรับ มิเรอิ กลิ่นน้ำผึ้งผสมมะนาว และ มิเรอิ กลิ่นซากุระ ขนาดบรรจุ 500 มล. ราคาขวดละ 20 บาท ตั้งเป้ายอดขายปีแรกไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท

นายตัน ภาสกรนที กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท ไม่ตัน จำกัด กล่าวก่อนหน้านี้ว่า ปีแรกจะให้ความสำคัญกับการสร้างแบรนด์ และการขยายช่องทางตลาดให้ครอบคลุม โดยบริษัทใช้งบการตลาดรวม 150 ล้านบาทในปีนี้ และเมื่อต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ออกชาเขียวอิชิตัน รสชาติจมูกข้าวญี่ปุ่น Genmai และภายในสิ้นปีนี้จะออกรสชาติใหม่ของเครื่องดื่มดับเบิ้ลดริ๊งค์อีก 1 รสชาติ ปีแรกตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 1,000 ล้านบาท และคาดว่าภายใน 3 ปี จะมีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มเป็น 20-30% ส่วนรายได้รวมบริษัทตั้งเป้ายอดขาย 1,700 ล้านบาท แบ่งเป็นดับเบิ้ล ดริ๊งค์ 500 ล้านบาท ร้านอาหาร 200 ล้านบาท และอิชิตัน 1,000 ล้านบาท และในปีหน้าตั้งเป้ายอดขาย อิชิตันไว้ที่ 2,000 ล้านบาท และเพิ่มเป็น 3,000 ล้านบาทในปี 2556

อย่างไรก็ตาม ในตลาดรวมชาเขียวพร้อมดื่ม มูลค่า 8,000 ล้านบาท มีโออิชิ ครองส่วนแบ่งตลาดสูงสุด 65% รองลงมาคือ เพียวริคุ ครองส่วนแบ่งตลาดประมาณ 15% และลิปตันประมาณ 10% สำหรับโออิชิ รสชาติที่ได้รับความนิยมสูงสุด คือ ฮันนี่เลมอน ตามมาด้วยรสข้าวญี่ปุ่น และออริจินัล ส่วนเพียวริคุ รสชาติที่ขายดีสุด คือ เพียวริคุ คูล เก๊กฮวยขาว ส่วนชาเขียวพร้อมดื่มแบรนด์อื่นๆ คือ อิชิตัน มีส่วนแบ่งตลาดประมาณ 6-7% ขณะที่แบรนด์ใหม่ "มิเรอิ" ของบริษัท ทิปโก้ เอฟแอนด์บี จำกัด เพิ่งเข้าตลาดปลายไตรมาส 3 ตัวเลขยังไม่ชัดเจน

No comments:

Post a Comment