พรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล หรือ
"พีแอนด์จี" ผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคอันดับ 1 ของโลก
ถึงวันนี้เป็นปีครบรอบ 25 ปีที่การดำเนินธุรกิจในไทย
ขณะที่ทั่วโลกเป็นการก้าวสู่ปีที่ 175 สถานะของพีแอนด์จีไทยวันนี้คือ
"ศูนย์กลางของอาเซียน" ที่ถือเป็นตลาดที่มีสัดส่วนรายได้มากที่สุดและเติบโตเร็วที่สุด
ขณะเดียวกันก็เป็นฐานการส่งออกสินค้าเกี่ยวกับ "บิวตี้แคร์"
คือกลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมและดูแลผิวที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย
และทำให้ไทยเป็นประเทศยุทธศาสตร์สำคัญของยักษ์ใหญ่รายนี้
นอกจากโรงงานในประเทศไทยแล้ว
พีแอนด์จียังมีโรงงานอีก 3 แห่งในกลุ่มประเทศอาเซียน ได้แก่ เวียดนาม อินโดนีเซีย
และฟิลิปปินส์ โดยเวียดนามเป็นฐานผลิตกลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลเสื้อผ้า ได้แก่
ผงซักฟอกไทด์และน้ำยาปรับผ้านุ่มดาวน์นี่, อินโดนีเซียเป็นฐานผลิตผ้าอ้อมสำเร็จรูปแพมเพอร์ส
และฟิลิปปินส์เป็นฐานผลิตแพมเพอร์สและวิสเปอร์
ในโอกาสครบรอบ 25 ปีในไทย
มร.ราอูล ฟอลคอน กรรมการผู้จัดการ พีแอนด์จี (ประเทศไทย)
มีวิสัยทัศน์และการขับเคลื่อนองค์กรเพื่อรองรับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือเออีซี
ใน
ปี 2558 อย่างน่าสนใจ
- เตรียมตั้งรับเออีซีอย่างไร
ขณะนี้เศรษฐกิจของโลกหมุนมาที่ภูมิภาคเอเชีย
ในเอเชียมีสัดส่วนรายได้ถึง 16% ของพีแอนด์จีทั่วโลก
เป็นภูมิภาคที่เติบโตด้านยอดขายมากที่สุด เทียบกับทวีปอื่น ๆ
ที่มีปัญหาด้านเศรษฐกิจมากมาย อาทิ ยุโรป
ส่วนในเอเชียแบ่งออกเป็นคลัสเตอร์
ได้แก่อาเซียน ซึ่งไทยเป็นหนึ่งในนั้น รวมถึงญี่ปุ่น จีน และอินเดีย
ฐานะของไทยถือเป็น engine of growth เพราะผลประกอบการของไทยจะนำไปสู่การ built ธุรกิจของอาเซียน
และการเติบโตในเอเชีย
หากมองที่จำนวนแคทิกอรี่ของพีแอนด์จีทั่วโลก
ซึ่งมี 38 แคทิกอรี่ แต่ละภูมิภาค แต่ละประเทศจะมี 19-20 แคทิกอรี่ ส่วนไทยมี 9-10
แคทิกอรี่ จึงมีช่องว่างจะเติบโตได้อีกมาก และเรามีแผนการต่าง ๆ ให้ไทยเป็น engine
of growth จริง ๆ จากนี้
- แผนการขยายธุรกิจในไทย
ย้อนกลับมาที่จุดมุ่งหมายของเรา
คือ touching
lives, improving life เราต้องการมีสินค้าครอบคลุมทุกพื้นที่ในไทย
กลุ่มผู้บริโภค เรามองเรื่องการขยายแคทิกอรี่ในไทย จำนวนพอร์ตโฟลิโอของผลิตภัณฑ์
แคทิกอรี่ใหม่ ๆ นวัตกรรมของสินค้า จากนี้จะมีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ
เพื่อเพิ่ม พอร์ตโฟลิโอ วางแผนครอบคลุมตลาดในทุก ๆ กลุ่ม
ยกตัวอย่างผลิตภัณฑ์แบบซอง ที่ครอบคลุมพื้นที่ต่าง ๆ ในต่างจังหวัดได้
สำหรับอาเซียนที่เราเป็นฮับ
แน่นอนว่าสถานะของพีแอนด์จีที่เรามีโรงงานระดับภูมิภาคอยู่ในประเทศไทย
เพื่อเตรียมพร้อมเป็นฮับ และเป็นโกลบอลซัพพลายเชนในผลิตภัณฑ์บิวตี้แคร์
เพราะปัจจุบันถือว่าเป็นโรงงานที่ใหญ่ที่สุดแล้ว ถ้าเทียบในพีแอนด์จีเอง
ไทยถือเป็นผู้ผลิตและส่งออกบิวตี้แคร์อันดับ 1 ของเอเชีย
สิ่งที่เรามองโอกาสของเออีซี
คือการ free
flow ของผลิตภัณฑ์ ซึ่งเรามีผลิตภัณฑ์หลากหลายในแต่ละประเทศ
นอกจากนี้ยังมองการ free flow ของบุคลากรด้วย ย้อนกลับมา
คืออยากฟูมฟักพนักงานให้เขาเติบโตไป เพื่อรับกับเออีซี เราเตรียมพร้อมแล้ว
- ยุทธศาสตร์ในโอกาสครบรอบ 25
ปี
เริ่มต้นจากจุดมุ่งหมายของเรา
เข้าถึงผู้บริโภคและพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้บริโภค
คนรุ่นปัจจุบันและคนที่จะเกิดขึ้นในอนาคต จะเพิ่มครอบคลุมทุกพื้นที่
ทั่วถึงทุกพื้นที่ในตลาดประเทศไทย ครอบคลุมกลุ่มผู้บริโภคในทุก ๆ เซ็กเมนต์
ยุทธ์ศาสตร์แรกคือพัฒนานวัตกรรม
ต่อปีบริษัทใช้งบฯลงทุนวิจัยและพัฒนาถึง 2 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ
เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ มีประสิทธิภาพมากขึ้น ตอบสนองผู้บริโภคในไลฟ์สไตล์ใหม่
ๆ ไม่ใช่แค่ผลิตภัณฑ์ แต่นวัตกรรมยังหมายถึงโมเดลธุรกิจใหม่ ๆ เช่น มีโปรแกรมใหม่
ๆ สำหรับลูกค้าที่เป็นช่องทางจัดจำหน่าย หรือเทรดพาร์ตเนอร์
ยุทธศาสตร์ที่ 2
คือพัฒนาบุคลากรให้มีความสามารถ และก้าวหน้าในหน้าที่การงานในระดับสากล
ไม่เพียงประเทศไทย ปัจจุบันเรามีคนไทย 35 คนทำงานระดับผู้บริหารในระดับภูมิภาค
และจะเพิ่มขึ้นทุกปี เป็นส่วนหนึ่งของการเตรียมพร้อม
เพื่อสอดรับกับเออีซีที่จะเกิดขึ้นด้วย
ยุทธศาสตร์ที่ 3
คือการพัฒนาอย่างยั่งยืน ทั้งเรื่องสิ่งแวดล้อม และพัฒนาสังคม ชุมชน
ในส่วนของชุมชนเรามีพันธกิจ Live, Learn and Thrive มีโครงการรักเรียน เรียนอย่างเป็นสุข จับมือ 7 พันธมิตร ดูแลเด็กด้อยโอกาส
เด็กเร่ร่อนให้เข้าถึงการศึกษา อีกด้านคือแผนพัฒนาอย่างยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม
ตรงนี้เรามีเป้าหมายใหญ่ของโกลบอลที่ท้าทาย อาทิ
ใช้พลังงานหมุนเวียนในกระบวนการผลิตทั้งหมด 100% เป็นต้น
- แคทิกอรี่ที่จะนำเข้ามาในไทย
คงไม่สามารถเฉพาะเจาะจงได้ว่าจะมีอีกแคทิกอรี่ในอนาคต
แต่ยกตัวอย่าง 3 แคทิกอรี่ใหม่ที่เพิ่มขึ้นในช่วงที่ผ่านมา คือสินค้าในกลุ่มผู้ชาย,
กลุ่มผลิตภัณฑ์ปรับอากาศ หรือแอร์แคร์ ภายใต้แบรนด์แอมบิเพอร์
และมีดาวน์นี่ ที่เราขยายจากเดิม
-
ยังขับเคลื่อนด้วยบิวตี้แคร์เป็นหลัก
กลุ่มบิวตี้แอนด์กรูมมิ่ง
เป็นกลุ่มที่สำคัญในเอเชียและอาเซียน แผนงานต่าง ๆ ยังขับเคลื่อนในเรื่องนี้ จริง
ๆ มาจากสิ่งที่
ผู้บริโภคเป็นด้วย
วันนี้คนให้ความสำคัญกับความสวย ความงาม รูปลักษณ์ ผลิตภัณฑ์ดูแลผู้ชายก็เติบโตมาก
ดังนั้น กลุ่มนี้ยังเป็นตัวหลักสร้างการเติบโต
และมีสัดส่วนใหญ่ที่สุดในพีแอนด์จีทั่วโลก
สำหรับในไทย
คนไทยตื่นตัวและให้ความสำคัญกับเรื่องความสวยความงาม
นอกจากผู้หญิงก็ยังผู้ชายด้วยที่ดูแลตัวเอง สะท้อนมาที่ยอดขาย
สกินแคร์ของเราโตที่สุดในอาเซียน แฮร์แคร์ คอนดิชั่นเนอร์ เราเติบโตที่สุด
ยอดขายเกือบครึ่งหนึ่งของอาเซียน เราให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาก
- ตั้งเป้าเป็นที่ 1 ในทุกตลาด
เป็นวิชั่นที่จะให้พีแอนด์จีเป็นบริษัทสินค้าอุปโภคบริโภคที่เติบโตเร็วที่สุด
และเป็นผู้นำในทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์ ปัจจุบันโอเลย์เป็นผู้นำในตลาดสกินแคร์ในไทย
ดาวน์นี่เป็นผู้นำน้ำยาปรับผ้านุ่มชนิดเข้มข้น และเติบโตสูงสุดในเอเชีย
อนาคตเราตั้งเป้าเป็นที่ 1 ในกลุ่มดูแลเส้นผมแซงคู่แข่งของเรา
- ตลาดไทยท้าทายอย่างไร
สิ่งที่ท้าทายเหมือนทุกบริษัท
คือ การแข่งขันตลาดที่สูง แต่ความท้าทายที่แท้จริงคือ ภายใน
จะทำอย่างไรในการเพิ่มประสิทธิภาพ ลดขั้นตอนการดำเนินงาน ลดความซ้ำซ้อน
ซึ่งจะนำไปสู่การเพิ่มผลประกอบการ อันนี้คือความท้าทายหลัก
นอกจากนี้
ยังเป็นเรื่องการใช้สื่อดิจิตัลที่เติบโตขึ้น การเข้าถึงผู้บริโภคตั้งแต่นี้ไป
ต้องเจาะกลุ่มเป้าหมาย เพราะปัจจุบันเป็นโลกของการสื่อสาร ไม่ใช่แค่สื่อทีวี
เรากำลังพัฒนาในส่วนนี้มากขึ้น
No comments:
Post a Comment