ปลายปี 2550 นับตั้งแต่การเข้ามาเปิดตลาดของ "แอคทิเวีย" คัพโยเกิร์ตระดับพรีเมี่ยมของยักษ์ใหญ่ "ดานอน" ค่ายโยเกิร์ตอันดับ 1 ของโลก เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของตลาดโยเกิร์ตเมืองไทยก็ว่าได้ เพราะเป็นการเข้ามาเปิดเซ็กเมนต์ใหม่ในตลาดพรีเมี่ยม ที่ชูจุดขายเรื่องคุณประโยชน์ คือช่วยในการขับถ่าย นับเป็นค่ายแรกที่ออกมาพูดเบเนฟิตของสินค้าอย่างชัดเจน
ล่าสุด ดานอนสร้างเซอร์ไพรส์อีกครั้ง ด้วยการเปิดตัวคัพโยเกิร์ตภายใต้แบรนด์ "ดานอน" แบรนด์เดียวกับชื่อบริษัทลงสู่ตลาด โดยเริ่มต้นเป็นเอ็กซ์คลูซีฟในเซเว่นอีเลฟเว่น ที่น่าสนใจ คือ ขายเพียง 10 บาทเท่านั้น ในขนาด 110 ม.ล. เท่ากับแอคทิเวีย
ล่าสุด ดานอนสร้างเซอร์ไพรส์อีกครั้ง ด้วยการเปิดตัวคัพโยเกิร์ตภายใต้แบรนด์ "ดานอน" แบรนด์เดียวกับชื่อบริษัทลงสู่ตลาด โดยเริ่มต้นเป็นเอ็กซ์คลูซีฟในเซเว่นอีเลฟเว่น ที่น่าสนใจ คือ ขายเพียง 10 บาทเท่านั้น ในขนาด 110 ม.ล. เท่ากับแอคทิเวีย
แหล่งข่าวจากวงการโยเกิร์ตเปิดเผยว่า เป็นกลยุทธ์จากบริษัทแม่ที่เห็นช่องว่างในตลาดต่างจังหวัด จึงเปิดตัวสินค้าดังกล่าวเพื่อขยายฐานผู้บริโภค ซึ่งปัจจุบันยังเป็นช่องว่างสำคัญที่ยังไม่มีใครลงเล่นอย่างจริงจัง
"ดานอนตั้งราคา 10 บาท ซึ่งต่ำกว่าทุกแบรนด์ที่อยู่ในตลาดขณะนี้ เป็นกลยุทธ์ของดานอนบริษัทแม่ โดยแอคทิเวียจะเจาะกลุ่มบน คนเมือง ขณะที่แบรนด์ดานอนก็จะเจาะต่างจังหวัด"
ด้าน "นำพล จารุพุทธิศิริพจน์" ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการด้านการตลาด บริษัท ซีพี-เมจิ จำกัด กล่าวว่า ปัจจุบัน ตลาดคัพโยเกิร์ตมีมูลค่า 3,500 ล้านบาท เติบโตไม่ต่ำกว่า 10% โดยดัชชี่ครองส่วนแบ่งประมาณ 60% ดานอน 15% และเมจิเป็นอันดับ 3 ประมาณ 6-7% โดยเซ็กเมนต์ฟังก์ชั่นนอลเติบโตขึ้นอย่างมาก ตั้งแต่การเข้ามาทำตลาดของแอคทิเวีย แต่สัดส่วนยังเล็กอยู่มาก ตลาดหลัก ๆ ของคัพโยเกิร์ตยังเป็น โยเกิร์ตที่เป็นรสชาติผลไม้ต่าง ๆ ซึ่งมีดัชชี่เป็นผู้นำ
"การเข้ามาของแบรนด์ดานอน 10 บาท ซึ่งเน้นในเซเว่นฯ คงสร้างแรงสั่นสะเทือนได้พอสมควร เพราะช่องทางร้านสะดวกซื้อเป็นช่องทางหลักของคัพโยเกิร์ต มีสัดส่วนถึง 40% ซึ่งแบรนด์ ที่น่าจะได้รับผลกระทบที่สุด หนีไม่พ้น ดัชชี่ ขณะที่เมจิเบอร์ 3 คงไม่ได้รับผลกระทบมากนัก"
"นำพล" ชี้ว่า ปัจจุบันเป็นการขับเคี่ยวกันระหว่างเบอร์ 1 กับเบอร์ 2 เห็นได้ชัดว่า ช่วงหลังแอคทิเวียก็เริ่ม เข้าไปเล่นในตลาดโยเกิร์ตผลไม้ ซึ่งเป็นตลาดหลักของดัชชี่มากขึ้น ขณะที่ดัชชี่ ก็รุกหนักกับดัชชี่ ไบโอ เพื่อแข่งกับแอคทิเวียในตลาดฟังก์ชั่นนอล"
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หากดูการขยับตัวของแอคทิเวียครั้งนี้ คงไม่ได้มีเป้าหมายแค่การขยายไปยังต่างจังหวัด แต่ใช้แบรนด์ "ดานอน" มาตีดัชชี่ ที่มีความโดดเด่นอย่างยิ่งในโยเกิร์ตรสผลไม้ต่าง ๆ ที่สำคัญคือฐานลูกค้าในต่างจังหวัด ซึ่งค่ายดัชมิลล์มีความโดดเด่นมาก ทั้งจากตู้แช่ในร้านค้าโชห่วยต่าง ๆ และเอเย่นต์สาวขายตรงในต่างจังหวัด เนื่องจากอยู่ในตลาดมาเนิ่นนาน ซึ่งตรงนี้เป็นจุดอ่อนสำคัญที่ค่ายดานอนยังเข้าไม่ถึง เพราะต่างเป็นช่องทางที่ต้องใช้เวลาในการบ่มเพาะและสร้างเครือข่าย
"นำพล" มองว่า การเปิดตัวดานอน 10 บาท เป็นสเต็ปแรกของดานอนที่เน้นช่องทางร้านสะดวกซื้อก่อน การขยายไปที่เทรดิชั่นนอลเทรด คงเป็นสเต็ปต่อไป
ย้อนไปเมื่อ 4 ปีก่อน แอคทิเวียกลายเป็นปรากฏการณ์เขย่าตลาดคัพโยเกิร์ต โดยเฉพาะสร้างแรงสั่นสะเทือนให้กับผู้นำตลาดอย่าง "ดัชชี่" มาครั้งหนึ่งแล้ว จนดัชมิลล์ต้องส่ง "ไบโอ ดัชชี่" ออกมาแก้เกมเมื่อต้นปี 2553 ที่ผ่านมา โดยชูจุดขายเรื่องช่วยระบบขับถ่ายเช่นเดียวกับแอคทิเวีย
ต่างกันที่ไบโอ ดัชชี่ มาในราคา 10 บาท แต่ด้วยสถานการณ์ต้นทุนที่ปรับเพิ่มขึ้น ล่าสุดดัชมิลล์ได้รีลอนช์ไบโอ ดัชชี่ ปรับราคาเป็น 12 บาท ในขนาด 110 ม.ล. ภายใต้ชื่อ "ดัชชี่ ไบโอ รุ่น Multi Care"
งานนี้มีการชูเรื่อง "จุลินทรีย์โพรไบโอติก" ตอกย้ำจุดขายในเรื่องช่วยในการ ขับถ่าย และรูปร่างหนักขึ้นกว่าเดิม แต่แม้จะขึ้นราคา ดัชมิลล์ยังคงวางให้ต่ำกว่าคู่แข่ง "แอคทิเวีย" อยู่ 1 บาท เพื่อเป็นจุดต่างให้ผู้บริโภคตัดสินใจได้ง่ายขึ้น
ดานอน ค่ายโยเกิร์ตเบอร์ 1 ของโลก จะสามารถใช้แบรนด์ "ดานอน" สร้างผลปรากฏการณ์ทะลวงฐานะลูกค้าในตลาดต่างจังหวัดได้เหมือนกับที่เคยทำสำเร็จในตลาดพรีเมี่ยมหรือไม่
อีกไม่นานเกินรอ
"ดานอนตั้งราคา 10 บาท ซึ่งต่ำกว่าทุกแบรนด์ที่อยู่ในตลาดขณะนี้ เป็นกลยุทธ์ของดานอนบริษัทแม่ โดยแอคทิเวียจะเจาะกลุ่มบน คนเมือง ขณะที่แบรนด์ดานอนก็จะเจาะต่างจังหวัด"
ด้าน "นำพล จารุพุทธิศิริพจน์" ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการด้านการตลาด บริษัท ซีพี-เมจิ จำกัด กล่าวว่า ปัจจุบัน ตลาดคัพโยเกิร์ตมีมูลค่า 3,500 ล้านบาท เติบโตไม่ต่ำกว่า 10% โดยดัชชี่ครองส่วนแบ่งประมาณ 60% ดานอน 15% และเมจิเป็นอันดับ 3 ประมาณ 6-7% โดยเซ็กเมนต์ฟังก์ชั่นนอลเติบโตขึ้นอย่างมาก ตั้งแต่การเข้ามาทำตลาดของแอคทิเวีย แต่สัดส่วนยังเล็กอยู่มาก ตลาดหลัก ๆ ของคัพโยเกิร์ตยังเป็น โยเกิร์ตที่เป็นรสชาติผลไม้ต่าง ๆ ซึ่งมีดัชชี่เป็นผู้นำ
"การเข้ามาของแบรนด์ดานอน 10 บาท ซึ่งเน้นในเซเว่นฯ คงสร้างแรงสั่นสะเทือนได้พอสมควร เพราะช่องทางร้านสะดวกซื้อเป็นช่องทางหลักของคัพโยเกิร์ต มีสัดส่วนถึง 40% ซึ่งแบรนด์ ที่น่าจะได้รับผลกระทบที่สุด หนีไม่พ้น ดัชชี่ ขณะที่เมจิเบอร์ 3 คงไม่ได้รับผลกระทบมากนัก"
"นำพล" ชี้ว่า ปัจจุบันเป็นการขับเคี่ยวกันระหว่างเบอร์ 1 กับเบอร์ 2 เห็นได้ชัดว่า ช่วงหลังแอคทิเวียก็เริ่ม เข้าไปเล่นในตลาดโยเกิร์ตผลไม้ ซึ่งเป็นตลาดหลักของดัชชี่มากขึ้น ขณะที่ดัชชี่ ก็รุกหนักกับดัชชี่ ไบโอ เพื่อแข่งกับแอคทิเวียในตลาดฟังก์ชั่นนอล"
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หากดูการขยับตัวของแอคทิเวียครั้งนี้ คงไม่ได้มีเป้าหมายแค่การขยายไปยังต่างจังหวัด แต่ใช้แบรนด์ "ดานอน" มาตีดัชชี่ ที่มีความโดดเด่นอย่างยิ่งในโยเกิร์ตรสผลไม้ต่าง ๆ ที่สำคัญคือฐานลูกค้าในต่างจังหวัด ซึ่งค่ายดัชมิลล์มีความโดดเด่นมาก ทั้งจากตู้แช่ในร้านค้าโชห่วยต่าง ๆ และเอเย่นต์สาวขายตรงในต่างจังหวัด เนื่องจากอยู่ในตลาดมาเนิ่นนาน ซึ่งตรงนี้เป็นจุดอ่อนสำคัญที่ค่ายดานอนยังเข้าไม่ถึง เพราะต่างเป็นช่องทางที่ต้องใช้เวลาในการบ่มเพาะและสร้างเครือข่าย
"นำพล" มองว่า การเปิดตัวดานอน 10 บาท เป็นสเต็ปแรกของดานอนที่เน้นช่องทางร้านสะดวกซื้อก่อน การขยายไปที่เทรดิชั่นนอลเทรด คงเป็นสเต็ปต่อไป
ย้อนไปเมื่อ 4 ปีก่อน แอคทิเวียกลายเป็นปรากฏการณ์เขย่าตลาดคัพโยเกิร์ต โดยเฉพาะสร้างแรงสั่นสะเทือนให้กับผู้นำตลาดอย่าง "ดัชชี่" มาครั้งหนึ่งแล้ว จนดัชมิลล์ต้องส่ง "ไบโอ ดัชชี่" ออกมาแก้เกมเมื่อต้นปี 2553 ที่ผ่านมา โดยชูจุดขายเรื่องช่วยระบบขับถ่ายเช่นเดียวกับแอคทิเวีย
ต่างกันที่ไบโอ ดัชชี่ มาในราคา 10 บาท แต่ด้วยสถานการณ์ต้นทุนที่ปรับเพิ่มขึ้น ล่าสุดดัชมิลล์ได้รีลอนช์ไบโอ ดัชชี่ ปรับราคาเป็น 12 บาท ในขนาด 110 ม.ล. ภายใต้ชื่อ "ดัชชี่ ไบโอ รุ่น Multi Care"
งานนี้มีการชูเรื่อง "จุลินทรีย์โพรไบโอติก" ตอกย้ำจุดขายในเรื่องช่วยในการ ขับถ่าย และรูปร่างหนักขึ้นกว่าเดิม แต่แม้จะขึ้นราคา ดัชมิลล์ยังคงวางให้ต่ำกว่าคู่แข่ง "แอคทิเวีย" อยู่ 1 บาท เพื่อเป็นจุดต่างให้ผู้บริโภคตัดสินใจได้ง่ายขึ้น
ดานอน ค่ายโยเกิร์ตเบอร์ 1 ของโลก จะสามารถใช้แบรนด์ "ดานอน" สร้างผลปรากฏการณ์ทะลวงฐานะลูกค้าในตลาดต่างจังหวัดได้เหมือนกับที่เคยทำสำเร็จในตลาดพรีเมี่ยมหรือไม่
อีกไม่นานเกินรอ
No comments:
Post a Comment